Steam Login with Steam

ประมวลกฎหมายแห่ง Red Dawn

บทนำ: เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัยของประชาชน และส่งเสริมระบบยุติธรรมภายในเมือง Red Dawn กฎหมายฉบับนี้ได้ถูกร่างขึ้นเพื่อใช้เป็นแนวทางในการบังคับใช้และพิจารณาการกระทำความผิดทั้งทางอาญาและแพ่ง โดยมีหลักเกณฑ์ที่เหมาะสมและสมดุล เพื่อไม่ให้เกิดความท้อแท้แก่พลเมืองและเปิดโอกาสให้มีการเยียวยาและแก้ไข

หมายเหตุเกี่ยวกับรูปแบบ: เพื่อความสะดวกในการอ้างอิงและตีความ กฎหมายทุกมาตราในฉบับนี้จะถูกจัดเรียงในรูปแบบตาราง แบ่งออกเป็นหมวด มาตรา ถ้อยคำแห่งบทบัญญัติ ระยะเวลาจำคุก และจำนวนค่าปรับ โดยถ้อยคำจะถูกเรียบเรียงให้มีความชัดเจน ครบถ้วน และอธิบายเนื้อหาของกฎหมายแต่ละมาตราอย่างเป็นทางการ

รัฐธรรมนูญแห่ง Red Dawn

ด้วยสำนึกในสิทธิ เสรีภาพ และศักดิ์ศรีแห่งพลเมือง รวมถึงความจำเป็นในการธำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม ความสงบเรียบร้อย และความมั่นคงของบ้านเมือง บรรดาประชาชนแห่งเมือง Red Dawn โดยมติแห่งสภาเมือง ได้ร่วมกันบัญญัติรัฐธรรมนูญฉบับนี้ขึ้นไว้เป็นกฎหมายสูงสุดของเมือง ทั้งนี้เพื่อวางหลักการพื้นฐานแห่งการปกครอง การคุ้มครองสิทธิ และการจัดวางอำนาจขององค์กรต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

หมวด 1: อำนาจอธิปไตยและหลักแห่งการปกครอง

  • อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชนแห่งเมือง Red Dawn โดยผ่านการเลือกตั้งและการแสดงเจตจำนงโดยเสรี
  • อำนาจในการปกครองแบ่งออกเป็นอำนาจนิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ ซึ่งต้องแยกออกจากกันและตรวจสอบถ่วงดุลได้
  • การใช้อำนาจรัฐต้องกระทำโดยองค์กรที่ได้รับแต่งตั้งหรือมาจากการเลือกตั้งตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ และต้องอยู่ภายใต้หลักนิติธรรมและความยุติธรรม

หมวด 2: สิทธิและเสรีภาพของพลเมือง

  • พลเมืองทุกคนมีสิทธิในชีวิต เสรีภาพ ทรัพย์สิน การเคลื่อนไหว การแสดงออก และการชุมนุมโดยสงบ ตามหลักแห่งความสงบเรียบร้อยของเมือง
  • ไม่มีผู้ใดถูกจับ กักขัง หรือจำคุก เว้นแต่โดยอาศัยอำนาจของกฎหมาย และคำสั่งของเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามครรลองแห่งกระบวนการยุติธรรม
  • พลเมืองมีสิทธิร้องเรียนหรือเสนอแนะต่อองค์กรของรัฐ และมีสิทธิได้รับการตอบสนองหรือชี้แจงภายในเวลาที่เหมาะสม
  • พลเมืองมีสิทธิได้รับความคุ้มครองจากการเลือกปฏิบัติอันเนื่องจากเพศ เชื้อชาติ ศาสนา ความเชื่อ หรือสถานภาพทางสังคม

หมวด 3: การจัดตั้งและหน้าที่ขององค์กรปกครอง

  • สภาเมือง: เป็นองค์กรนิติบัญญัติ มีอำนาจในการออกกฎหมาย ทบทวน แก้ไข และยกเลิกกฎหมายของเมือง
  • คณะกรรมการบริหารเมือง: นำโดยนายกเทศมนตรี ซึ่งมาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชนทุก 3 เดือน มีอำนาจในการบริหารราชการแผ่นดิน ทำนโยบาย พัฒนาเมือง และเสนอร่างกฎหมายต่อสภาเมือง
  • นายกเทศมนตรีต้องได้รับคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่มาใช้สิทธิ และจะพ้นจากตำแหน่งเมื่อครบวาระ หรือโดยมติไม่ไว้วางใจของสภาเมืองด้วยเสียงสองในสาม
  • นายอำเภอ: แต่ละเขตเมือง ดำรงตำแหน่งโดยการเลือกตั้งจากพลเมืองในเขตนั้นทุก 3 เดือน และมีหน้าที่รับผิดชอบความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัย และการบังคับใช้กฎหมายภายในเขตอำนาจของตน โดยอยู่ภายใต้การกำกับของคณะกรรมการบริหารเมือง
  • ศาลเมือง: เป็นองค์กรตุลาการ มีอำนาจในการพิจารณาและตัดสินคดีอาญา คดีแพ่ง และข้อพิพาททางปกครองตามกฎหมาย โดยมีอิสระในการวินิจฉัยและปลอดจากการแทรกแซง

หมวด 4: หลักแห่งความยุติธรรม

  • การพิจารณาคดีต้องเป็นไปโดยเปิดเผย ยุติธรรม และให้โอกาสแก่คู่ความในการชี้แจงและนำพยานหลักฐาน
  • จำเลยในคดีอาญามีสิทธิได้รับแจ้งข้อกล่าวหา ทนายความ และการสันนิษฐานว่าเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะพิสูจน์ได้โดยกระบวนการยุติธรรม
  • การลงโทษต้องเป็นไปโดยกฎหมาย และต้องไม่ใช้โทษเกินสมควรแก่เหตุแห่งความผิด

หมวด 5: การเลือกตั้งและวาระการดำรงตำแหน่ง

  • พลเมืองที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี มีสัญชาติและทะเบียนบ้านในเมือง Red Dawn ไม่ต่ำกว่า 1 เดือน มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง
  • การเลือกตั้งทั่วไปต้องดำเนินโดยองค์กรอิสระกลางที่สภาเมืองแต่งตั้ง และต้องจัดให้มีความโปร่งใส เป็นธรรม และตรวจสอบได้
  • ห้ามผู้สมัครซื้อเสียง หรือใช้วิธีการหลอกลวง บีบบังคับ หรือกระทำการอื่นใดอันเป็นการขัดต่อศีลธรรมและความสุจริตแห่งกระบวนการประชาธิปไตย

หมวด 6: การแก้ไขรัฐธรรมนูญ

  • การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญต้องกระทำโดยมติของสภาเมืองในวาระ 2 ครั้ง และต้องได้รับเสียงเห็นชอบไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนสมาชิกทั้งหมดของสภาเมือง
  • การแก้ไขที่เกี่ยวข้องกับสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน ต้องจัดให้มีประชามติรับรองโดยพลเมือง

บทเฉพาะกาล

  • ให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศ และให้ถือเป็นกฎหมายแม่บทเหนือกฎหมายอื่นใดในเขตเมือง Red Dawn
  • ให้การจัดตั้งองค์กรตามรัฐธรรมนูญกระทำให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันนับแต่วันประกาศใช้

ภาคหนึ่ง: ประมวลกฎหมายอาญา

หมวด มาตรา ถ้อยคำแห่งบทบัญญัติ จำคุก (นาที) ปรับ (ดอลลาร์)
ความผิดเกี่ยวกับการทำร้ายร่างกาย มาตรา 1 ผู้ใดทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยมิได้ถึงขั้นหมดสติหรือถึงแก่ชีวิต ไม่ว่าด้วยอาวุธหรือมือเปล่า หากไม่ปรากฏพฤติการณ์อุกอาจหรือผลกระทบร้ายแรง ให้ระวางโทษโดยเจ้าหน้าที่พิจารณาตามสถานการณ์ 5 3
ความผิดเกี่ยวกับการทำร้ายร่างกาย มาตรา 2 ผู้ใดทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้หมดสติ หรือไม่สามารถดำรงตนได้โดยปกติเป็นการชั่วคราว ให้ระวางโทษตามความเหมาะสม โดยพิจารณาจากเจตนา ลักษณะอาวุธ และสภาพแวดล้อมขณะเกิดเหตุ 10 7
ความผิดเกี่ยวกับการทำร้ายร่างกาย มาตรา 3 ผู้ใดกระทำการกักขัง หน่วงเหนี่ยว หรือจับผู้อื่นเป็นตัวประกัน ไม่ว่าจะด้วยการใช้กำลังหรือขู่เข็ญด้วยอาวุธ ให้ระวางโทษ เว้นแต่เป็นการกระทำโดยมีเหตุจำเป็นตามสมควรซึ่งต้องพิสูจน์ได้ในภายหลัง 15 12
ความผิดเกี่ยวกับการทำร้ายร่างกาย มาตรา 4 ผู้ใดขัดขืนคำสั่ง หรือหลีกเลี่ยงการปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ขณะปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการ ให้ระวางโทษ เว้นแต่พิสูจน์ได้ว่าการขัดขืนดังกล่าวมีเหตุผลอันสมควรตามสถานการณ์ 10 5
ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ มาตรา 5 ผู้ใดลักทรัพย์ของผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นม้า เกวียน หรือทรัพย์สินเคลื่อนที่อื่น ให้ระวางโทษตามความเหมาะสม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับมูลค่าทรัพย์สินและพฤติการณ์แห่งคดี ให้ระวางโทษ 10 10
ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ มาตรา 6 ผู้ใดใช้กำลังหรือข่มขู่เพื่อปล้นทรัพย์ หรือเรียกค่าไถ่จากผู้อื่น ให้ระวางโทษสถานหนัก เพื่อป้องกันมิให้เกิดการกระทำลักษณะเดียวกันในสังคม ให้ระวางโทษ 20 25
ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ มาตรา 7 ผู้ใดลักลอบขุดสุสานเพื่อนำทรัพย์สินออกมาโดยมิชอบ ไม่ว่าจะด้วยเครื่องมือชนิดใด หากไม่มีใบอนุญาตหรือเจตนาเพื่อประโยชน์ส่วนตน ให้ถือว่ามีความผิด ให้ระวางโทษ 10 5
ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ มาตรา 8 ผู้ใดร่วมกันปล้นธนาคาร หรือสถานที่เก็บทรัพย์สินของรัฐหรือเอกชนที่มีการควบคุมอย่างเข้มงวด ให้ระวางโทษสถานหนักตามบทบัญญัตินี้ 30 100
ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ มาตรา 9 ผู้ใดกระทำการปล้นร้านค้าในเขตเมือง ไม่ว่าจะกระทำโดยลำพังหรือร่วมกับผู้อื่น ให้ระวางโทษตามระดับความร้ายแรงของพฤติการณ์ 20 75
ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ มาตรา 10 ผู้ใดปล้นค่ายทหาร หรือสิ่งปลูกสร้างที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงภายในเมือง ให้ระวางโทษสถานหนักและไม่มีสิทธิลดหย่อนในเบื้องต้น 15 50
ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ มาตรา 11 ผู้ใดปล้นแท่นขุดน้ำมันหรือทรัพย์สินที่ใช้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจร่วมกันของสาธารณะ ให้ระวางโทษเช่นเดียวกับการปล้นสถานที่สำคัญ 15 50
ความผิดเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม มาตรา 12 ผู้ใดปลูกพืชในพื้นที่ห้ามปลูก เช่น เขตเมือง ถนน หรือสวนสาธารณะ และฝ่าฝืนคำสั่งหรือคำเตือนจากเจ้าหน้าที่ ให้ถือว่ามีเจตนาเพิกเฉยต่อความสงบเรียบร้อยของเมือง ให้ระวางโทษ 3 2
ความผิดเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม มาตรา 13 ผู้ใดทิ้งขยะหรือสิ่งของในพื้นที่สาธารณะโดยฝ่าฝืนคำเตือนจากเจ้าหน้าที่หรือไม่ยอมจัดเก็บแม้ได้รับโอกาสแล้ว ให้ระวางโทษตามสมควรแก่พฤติการณ์ 5 1
ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด มาตรา 14 ผู้ใดเสพยาเสพติดในที่สาธารณะหรือบริเวณที่มีบุคคลทั่วไปสัญจรผ่าน ถือเป็นการกระทำที่ส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของเมือง ให้ระวางโทษ 5 2
ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด มาตรา 15 ผู้ใดครอบครองกัญชาในจำนวนเกินสามหน่วยบริโภค ให้ถือว่ามีเจตนาเพื่อการใช้ผิดวัตถุประสงค์ตามกฎหมาย และต้องรับโทษปรับตามจำนวนหน่วยที่เกินมา ให้ระวางโทษ - 2 x จำนวนชิ้นที่เกินจากสาม
ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด มาตรา 16 ผู้ใดครอบครองฝิ่น ไม่ว่าจะจำนวนเท่าใด ให้ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย โดยให้พิจารณาบทลงโทษเพิ่มขึ้นตามจำนวนฝิ่นที่ครอบครอง ให้ระวางโทษ 5 5 x จำนวนชิ้น
ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด มาตรา 17 ผู้ใดกระทำการซื้อ ขาย หรือแลกเปลี่ยนยาเสพติดกับบุคคลอื่นไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตหรือผู้เสพ ให้ถือว่ามีความผิดทั้งสองฝ่าย โดยไม่มีข้อยกเว้น ให้ระวางโทษ 10 5
ความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกง มาตรา 18 ผู้ใดฉ้อโกงหรือหลอกลวงผู้อื่น โดยการแสดงข้อความเท็จ ปกปิดข้อเท็จจริง หรือกระทำการใด ๆ อันเป็นการหลอกลวง เพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินหรือผลประโยชน์อื่นใดโดยมิชอบ ให้ถือว่ามีความผิดฐานฉ้อโกงทั่วไป ให้ระวางโทษ 10 10
ความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกง มาตรา 19 ผู้ใดฉ้อโกงประชาชน หรือกระทำการใด ๆ โดยมีลักษณะเป็นการหลอกลวงต่อประชาชนทั่วไป หรือประชาชนจำนวนมาก ให้ถือว่ามีความผิดในสถานหนักกว่าฉ้อโกงทั่วไป ตามมาตรา 18 ให้ระวางโทษ 25 30
ความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง มาตรา 20 ผู้ใดดูหมิ่น ดูแคลน หรือแสดงข้อความอันมีลักษณะเป็นการเหยียดหยามรัฐบาลเมือง Red Dawn หรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองต่อสาธารณชน ไม่ว่าจะโดยวาจา หนังสือ หรือวิธีการอื่นใด อันอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อความสงบเรียบร้อยของเมือง ให้ถือว่ามีความผิดฐานหมิ่นรัฐบาล ให้ระวางโทษ 60 120
ความผิดเกี่ยวกับเพศและศีลธรรม มาตรา 21 ผู้ใดกระทำการลวนลาม คุกคามทางเพศ หรือแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมในที่สาธารณะ ไม่ว่าจะต่อบุคคลใด ให้ถือว่ามีความผิดอาญาอันกระทบต่อศีลธรรมของสาธารณชน ให้ระวางโทษ 45 15
ความผิดเกี่ยวกับการแอบอ้างและปลอมแปลง มาตรา 22 ผู้ใดแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ปลอมแปลงเอกสารราชการ หรือใช้เครื่องแบบ สัญลักษณ์ หรือสิ่งแสดงตนใด ๆ เพื่อหลอกลวงผู้อื่น ให้ถือว่ามีความผิดฐานแอบอ้างและปลอมแปลง ให้ระวางโทษ 15 30
ความผิดเกี่ยวกับการหมิ่นประมาท มาตรา 23 ผู้ใดแสดงข้อความเท็จหรือใส่ความบุคคลอื่นต่อสาธารณชนด้วยเจตนาให้เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือเกลียดชัง ให้ถือว่ามีความผิดฐานหมิ่นประมาท ให้ระวางโทษ 10 10
ความผิดเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม มาตรา 24 ผู้ใดกระทำการปกปิด ทำลาย หรือเปลี่ยนแปลงพยานหลักฐานที่อาจใช้ในการสอบสวนคดีความ ข่มขู่พยาน หรือพยายามหลบหนีขณะอยู่ระหว่างการควบคุมของเจ้าหน้าที่ ให้ถือว่ามีความผิดฐานขัดขวางกระบวนการยุติธรรม ให้ระวางโทษ 10 25
ความผิดเกี่ยวกับการก่อความไม่สงบ มาตรา 25 ผู้ใดกระทำการปลุกระดมฝูงชน ปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยก หรือจัดการชุมนุมโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือเผาทรัพย์สินสาธารณะหรือเอกชนด้วยเจตนาให้เกิดความเสียหายแก่บ้านเมือง ให้ถือว่ามีความผิดฐานก่อความไม่สงบ ให้ระวางโทษ 30 40
ความผิดเกี่ยวกับการก่อความไม่สงบ มาตรา 26 ผู้ใดสวมหน้ากาก ปิดบังใบหน้า หรือกระทำการใด ๆ เพื่อปิดบังอัตลักษณ์ของตนเองในที่สาธารณะภายในเขตเมือง โดยไม่มีเหตุอันสมควรหรือไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ ให้ถือว่ากระทำผิดกฎหมายว่าด้วยความสงบเรียบร้อย ให้ระวางโทษ 5 7
ความผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้ง มาตรา 27 ผู้ใดซื้อเสียง ข่มขู่ ปลอมแปลงผล หรือกระทำทุจริตต่อการเลือกตั้งในรูปแบบใด ๆ เพื่อให้ตนหรือผู้อื่นได้รับเลือก หรือทำลายสิทธิของผู้อื่น ให้ถือว่ามีความผิดร้ายแรง ให้ระวางโทษ 30 100
ความผิดเกี่ยวกับการติดสินบน มาตรา 28 ผู้ใดดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ฝ่ายยุติธรรม หรือผู้มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย แล้วเรียกรับ หรือยอมรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด เพื่อกระทำการ หรือไม่กระทำการ หรือชักจูงให้มีการกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งหน้าที่ของตน ไม่ว่าการกระทำหรือไม่กระทำนั้นจะชอบด้วยหน้าที่หรือไม่ก็ตาม ให้ถือว่ากระทำความผิดฐานรับสินบน ให้ระวางโทษ 40 100
ความผิดเกี่ยวกับการติดสินบน มาตรา 29 ผู้ใดเสนอให้ หรือให้ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่บุคคลตามวรรคแรก เพื่อจูงใจให้ผู้นั้นกระทำการ หรือไม่กระทำการในตำแหน่งหน้าที่ ให้ถือว่ากระทำความผิดฐานให้สินบน ให้ระวางโทษ 30 50
ความผิดเกี่ยวกับการชำระเงิน มาตรา 30 ผู้ใดซึ่งถูกลงโทษปรับตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายหรือค่ารักษาพยาบาล แล้วไม่ชำระเงินภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยไม่มีเหตุอันสมควร ให้เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจสามารถดำเนินการตามลำดับดังต่อไปนี้:
  • (1) ออกคำสั่งให้ชำระค่าปรับภายในระยะเวลาผ่อนผันเพิ่มเติมไม่เกิน 30 นาที
  • (2) หากยังไม่ชำระภายในระยะเวลาผ่อนผัน ให้ถือว่าผู้นั้นหลีกเลี่ยงการปฏิบัติตามบทลงโทษ และสามารถดำเนินการแปลงค่าปรับเป็นโทษจำคุกแทนได้ โดยให้ถือว่า ทุก 10 ดอลลาร์ เทียบเท่าจำคุก 1 นาที แต่ไม่เกินอัตราโทษจำคุกสูงสุดตามความผิดที่ได้กระทำ
  • (3) ในกรณีมีเหตุผลพิเศษหรือร้องขอผ่อนปรน เจ้าหน้าที่อาจอนุญาตให้แบ่งชำระค่าปรับตามดุลพินิจ
  • การแปลงค่าปรับเป็นโทษจำคุกตามวรรคก่อน ให้กระทำโดยมีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า และต้องได้รับความเห็นชอบจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองหรือฝ่ายยุติธรรม

    ทุก 10 ดอลลาร์ เทียบเท่าจำคุก 1 นาที -
    ความผิดเกี่ยวกับการชำระเงิน มาตรา 31 ผู้ใดที่มีหน้าที่ตามกฎหมายให้ชำระภาษีโรงเรือนแต่มิชำระหรือชำระไม่ครบถ้วนภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยไม่แสดงเหตุอันสมควร ให้ถือว่ากระทำความผิดฐานไม่ชำระภาษีโรงเรือน ให้ระวางโทษ 10 50
    ความผิดเกี่ยวกับการชำระเงิน มาตรา 32 ผู้ใดที่มีหน้าที่ชำระภาษีเงินได้ตามที่กฎหมายกำหนด แต่มิชำระหรือชำระไม่ครบถ้วนภายในระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งกรณีดังกล่าวกระทำโดยมีเจตนาหรือประสงค์เลี่ยงภาษี ให้ถือว่ากระทำความผิดฐานไม่ชำระภาษีเงินได้ ให้ระวางโทษ 10 45
    ความผิดเกี่ยวกับการฝ่าฝืนคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ มาตรา 33 ผู้ใดฝ่าฝืนคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์โดยโอน ยักย้าย จำหน่าย หรือชำระหนี้โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 10/2 ให้ถือว่ากระทำความผิดฐานขัดคำสั่งของเจ้าหน้าที่ตามกระบวนการล้มละลาย ให้ระวางโทษ 20 -
    ความผิดเกี่ยวกับการฝ่าฝืนคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ มาตรา 33/1 ผู้ใดซึ่งอยู่ในสถานะบุคคลล้มละลายกระทำการฝ่าฝืนข้อห้ามตามกฎหมายว่าด้วยการล้มละลาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 10/3 เช่น ประกอบกิจการ ลงสมัครเลือกตั้ง หรือทำธุรกรรมในระบบเศรษฐกิจ โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ ให้ถือว่ากระทำความผิดฐานละเมิดข้อจำกัดของสถานะบุคคลล้มละลาย ให้ระวางโทษ 5 -
    ความผิดเกี่ยวกับการทะเบียนราษฎร์ มาตรา 34 ผู้ใดซึ่งมีถิ่นที่อยู่ภายในเขตเมือง ต้องมีหนังสือประจำตัวประชาชนติดตัวไว้ตลอดเวลาเมื่ออยู่ในพื้นที่สาธารณะ หากเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบแล้วไม่สามารถแสดงหนังสือประจำตัวประชาชนได้โดยไม่มีเหตุอันสมควร ให้ถือว่ากระทำผิดกฎหมาย ให้ระวางโทษ 5 10
    ความผิดเกี่ยวกับการทะเบียนราษฎร์ มาตรา 35 หนังสือประจำตัวประชาชนที่ไม่มีภาพถ่ายของเจ้าของหนังสือประจำตัวประชาชน หรือมีภาพที่ไม่ตรงกับตัวบุคคลโดยชัดแจ้ง ให้ถือว่าเป็นหนังสือประจำตัวประชาชนที่ไม่สมบูรณ์และไม่ชอบด้วยกฎหมาย ผู้ใดใช้หรือแสดงหนังสือประจำตัวประชาชนดังกล่าวเพื่อยืนยันตัวตนต่อเจ้าหน้าที่หรือในการทำธุรกรรมใด ๆ ให้ถือว่ากระทำผิดฐานใช้เอกสารเท็จ ให้ระวางโทษ 15 20
    ความผิดเกี่ยวกับการประกอบอาชีพสงวน มาตรา 36 ผู้ใดซึ่งไม่ได้มีสถานะเป็น “พลเมือง” ของเมืองใดเมืองหนึ่งในมหานคร Red Dawn แล้วประกอบอาชีพที่อยู่ในบัญชีอาชีพเฉพาะทางของเมืองนั้น โดยมิได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานปกครองท้องถิ่น และไม่ชำระค่าธรรมเนียมตามที่กำหนด หรือมีชื่อไม่ตรงกับใบอนุญาต ให้ถือว่ากระทำความผิดฐานละเมิดสิทธิทางเศรษฐกิจในเขตเมือง ให้ระวางโทษ 30 45
    ความผิดเกี่ยวกับการประกอบอาชีพสงวน มาตรา 36/1 อาชีพสงวนตามถิ่นฐานแห่งเมือง Red Dawn เพื่อรักษาสมดุลทางเศรษฐกิจ และส่งเสริมอัตลักษณ์ทางสังคมของแต่ละเมือง ให้บัญชีอาชีพสงวนเฉพาะสำหรับพลเมืองถิ่นฐานของเมืองนั้น ๆ มีดังต่อไปนี้:
  • อาชีพปศุสัตว์ สงวนสิทธิสำหรับพลเมืองเมือง Valentine
  • อาชีพขุดเหมือง สงวนสิทธิสำหรับพลเมืองเมือง Saint Denis
  • อาชีพตัดไม้ สงวนสิทธิสำหรับพลเมืองเมือง Strawberry
  • อาชีพเกษตรกร สงวนสิทธิสำหรับพลเมืองเมือง Rhodes
  • บุคคลใดซึ่งมิได้มีสถานะเป็นพลเมืองในเมืองดังกล่าว แล้วประกอบอาชีพสงวนในพื้นที่นั้น โดยมิได้รับใบอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจ หรือไม่ชำระค่าธรรมเนียมการเข้าถึงสิทธิอาชีพ ให้ระวางโทษตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36

    - -

    ภาคสอง: ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

    หมวด มาตรา ถ้อยคำแห่งบทบัญญัติ จำคุก (นาที) ปรับ (ดอลลาร์)
    ความแพ่งและทรัพย์สิน มาตรา 1 ผู้ใดละเมิดสิทธิในทรัพย์สินของผู้อื่น เช่น บุกรุกที่ดิน หรือยึดครองทรัพย์โดยไม่มีสิทธิ์อันชอบธรรม ให้เจ้าของสิทธิมีสิทธินำคดีเข้าสู่กระบวนการพิจารณา - เรียกค่าเสียหายตามจริง
    ความแพ่งและหนี้สัญญา มาตรา 2 ผู้ใดยืมเงินหรือทรัพย์สินจากผู้อื่นโดยมีพยานหรือหลักฐาน แล้วไม่ส่งคืนตามที่ตกลงกัน ให้ผู้เสียหายมีสิทธินำคดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแพ่ง - เรียกคืนตามมูลหนี้
    ความแพ่งเกี่ยวกับพินัยกรรม มาตรา 3 ในกรณีที่มีการเสียชีวิตของบุคคลซึ่งมีพินัยกรรมที่ระบุชัดเจน ทรัพย์สินของผู้ตายให้ตกแก่ผู้รับพินัยกรรมตามลำดับ หากไม่มีพินัยกรรมให้ตกทอดตามสิทธิของทายาทโดยธรรม - -
    ความแพ่งและทรัพย์สิน มาตรา 4 ผู้ใดก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินหรือร่างกายของผู้อื่นโดยประมาทเลินเล่อ เช่น ขี่ม้าชนบ้าน หรือทำสิ่งของตกใส่ ให้ชดใช้ค่าเสียหายตามมูลค่า - ชดใช้ค่าเสียหายตามมูลค่า
    ความแพ่งเกี่ยวกับการเช่าทรัพย์ มาตรา 5 ผู้ให้เช่ามีสิทธิเก็บค่าเช่าตามที่ตกลง หากผู้เช่าผิดสัญญา เช่น ไม่จ่ายค่าเช่าหรือทำลายทรัพย์สิน ผู้ให้เช่ามีสิทธินำคดีฟ้องเรียกค่าเสียหาย - เรียกค่าเสียหายตามจริง
    ความแพ่งเกี่ยวกับหุ้นส่วนธุรกิจ มาตรา 6 หากมีการจัดตั้งหุ้นส่วนหรือกิจการร่วมค้าระหว่างบุคคล แล้วเกิดข้อพิพาท ให้ถือว่าผู้มีส่วนร่วมมีสิทธิเรียกร้องหรือแบ่งปันตามสัดส่วนที่ตกลงไว้ - แบ่งตามสัญญาหรือคำพิพากษา
    ความแพ่งเกี่ยวกับการละเมิดชื่อเสียง มาตรา 7 ผู้ใดหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยทำให้ได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียงหรือฐานะในทางแพ่ง ให้ผู้เสียหายมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายได้ - ตามคำสั่งศาล
    ความแพ่งเกี่ยวกับการครอบครองปรปักษ์ มาตรา 8 ผู้ใดครอบครองทรัพย์โดยสงบและเปิดเผยเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 15 วัน ในเขตเมือง Red Dawn โดยไม่ปรากฏเจ้าของเดิมแสดงสิทธิให้ชัดแจ้ง ให้สามารถยื่นคำร้องขอกรรมสิทธิ์ต่อศาลเมืองได้ - -
    ความแพ่งเกี่ยวกับการหย่าร้าง มาตรา 9 กรณีสามีภริยาหย่าร้างหรือแยกกันอยู่ ให้แบ่งทรัพย์สินที่ได้มาระหว่างสมรสโดยเสมอภาค เว้นแต่มีข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษร - แบ่งตามข้อตกลงหรือคำสั่งศาล
    ความแพ่งเกี่ยวกับการล้มละลาย มาตรา 10 ผู้ใดประกอบกิจการหรือมีรายได้ประจำ แล้วมีหนี้สินรวมกันเกินกว่า 3,000 ดอลลาร์ และไม่สามารถชำระหนี้ที่ถึงกำหนดได้ ให้ถือว่าบุคคลนั้นอยู่ในภาวะล้มละลาย และอาจถูกยื่นคำร้องให้เข้าสู่กระบวนการล้มละลายโดยเจ้าหนี้ที่มีสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย - -
    ความแพ่งเกี่ยวกับการล้มละลาย มาตรา 10/1 เจ้าหนี้คนหนึ่งหรือหลายคนสามารถยื่นคำร้องต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายยุติธรรม เพื่อขอให้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ได้ หากแสดงหลักฐานว่าลูกหนี้มีหนี้สินตามจำนวนและไม่มีเจตนาชำระ เจ้าหน้าที่อาจมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราวหรือเด็ดขาดแล้วแต่กรณี - -
    ความแพ่งเกี่ยวกับการล้มละลาย มาตรา 10/2 เมื่อมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้ว ทรัพย์สินทั้งหมดของลูกหนี้ให้ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์ ลูกหนี้ต้องไม่โอน ยักย้าย หรือจำหน่ายทรัพย์สิน หรือชำระหนี้ใด ๆ แก่บุคคลใด เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่โดยชัดแจ้ง

    หากฝ่าฝืนให้ระวางโทษ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 33

    - -
    ความแพ่งเกี่ยวกับการล้มละลาย มาตรา 10/3 บุคคลที่ถูกประกาศล้มละลายจะถูกจำกัดสิทธิ ดังนี้:
  • ห้ามประกอบกิจการในชื่อของตนเอง
  • ห้ามลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ/ที่ทำการอำเภอ
  • ห้ามถือครองทรัพย์สินใหม่หรือทำธุรกรรมทางการเงินในระบบเศรษฐกิจเว้นแต่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการ
  • หากฝ่าฝืนให้ระวางโทษ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 33/1

    - -
    ความแพ่งเกี่ยวกับการล้มละลาย มาตรา 10/4 การพ้นจากสถานะล้มละลายกระทำได้โดย:
  • ลูกหนี้ชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ครบถ้วน
  • ลูกหนี้ตกลงยุติข้อพิพาทด้วยวิธีไกล่เกลี่ยที่ได้รับการรับรอง
  • เวลาผ่านไปเกิน 24 ชั่วโมงโดยไม่มีการร้องเรียนหรือข้อกล่าวหาซ้ำ และไม่มีพฤติการณ์หลบเลี่ยงภาระผูกพันใด ๆ
  • - -

    บทลงท้ายแห่งประมวลกฎหมายเมือง Red Dawn

    เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ความสงบเรียบร้อย และความปลอดภัยแห่งเมือง Red Dawn อันเป็นประโยชน์ของประชาชนโดยส่วนรวม กฎหมายฉบับนี้ให้ใช้บังคับกับเขตปกครองทั้งหมดภายในเมือง ไม่ว่าจะเป็นเขตเมือง เขตการค้า เขตชนบท เขตป่า หรือเขตพาณิชยกรรม

    ในการวินิจฉัยโทษของบุคคลซึ่งกระทำผิดหลายกรรมในคราวเดียวกัน ให้เจ้าหน้าที่มีอำนาจรวมโทษแห่งการจำคุกและค่าปรับ โดยมีข้อจำกัดตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้:

    • จำคุกรวมทุกกระทงความผิดได้ไม่เกิน หกสิบ (60) นาที
    • ค่าปรับรวมทุกกระทงความผิดได้ไม่เกิน หนึ่งพัน (1,000) ดอลลาร์
    • ข้อกำหนดข้างต้น ไม่รวม ถึง ค่าสินไหมทดแทนทางแพ่ง ซึ่งอาจเรียกเพิ่มเติมโดยกระบวนการพิจารณาคดีในศาลเมือง
    • โทษจำคุกและค่าปรับที่กำหนดไว้ในบทบัญญัตินี้ ให้ถือเป็นอัตราโทษสูงสุดที่สามารถลงโทษได้ ทั้งนี้ การกำหนดโทษในแต่ละกรณีให้พิจารณาจากพฤติการณ์แห่งคดี ความหนักเบาแห่งความผิด และดุลพินิจของเจ้าพนักงานหรือศาลที่มีอำนาจตามสมควรแก่พฤติการณ์
    • ในกรณีที่ความผิดมิใช่คดีร้ายแรง หรือ เป็นการกระทำผิดครั้งแรก และมิได้มีเจตนาฝ่าฝืนกฎหมายโดยตรง เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจสามารถใช้ดุลพินิจในการตักเตือน แนะนำ หรือให้โอกาสในการแก้ไขโดยไม่ต้องดำเนินคดีในทันที ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นในการบังคับใช้กฎหมาย และรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคมโดยไม่เป็นภาระเกินจำเป็นต่อประชาชน
    • สำหรับโทษจำคุกใด ๆ ที่มีระยะเวลา เกินกว่า 5 นาทีขึ้นไป ให้ถือว่าผู้นั้นต้องถูกส่งตัวไปควบคุม ณ เรือนจำซิซิก้า (Sisika Penitentiary) ภายใต้การควบคุมของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ และจะต้องอยู่ภายใต้ระเบียบของเรือนจำจนกว่าจะพ้นโทษ
    • ทั้งนี้ การใช้ดุลพินิจ การจำแนกประเภทคดี และการตัดสินใจส่งตัวนักโทษ ให้เป็นอำนาจของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองหรือฝ่ายยุติธรรมซึ่งมีอำนาจโดยชอบธรรม
    • การบันทึกประวัติอาชญากรรมให้กระทำเฉพาะในกรณีที่เป็นคดีร้ายแรง หรือมีโทษจำคุกตั้งแต่ 10 นาทีขึ้นไป หากเป็นคดีไม่ร้ายแรง เจ้าหน้าที่สามารถใช้ดุลพินิจ ไม่บันทึกประวัติ ได้ตามความเหมาะสม

    ทั้งนี้ ในกรณีที่เกิดความเคลือบแคลงหรือข้อโต้แย้งในทางตีความ ให้ถือหลักแห่งความยุติธรรมและเหตุผลเป็นที่ตั้ง โดยให้หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายยุติธรรมมีอำนาจพิจารณาเบื้องต้น และสามารถนำเรื่องเข้าสู่การประชุมของสภาเมืองเพื่อวินิจฉัยชี้ขาดได้เมื่อจำเป็น

    ประกาศ ณ เมือง Red Dawn

    โดยคำรับรองของสภาเมืองและเจ้าหน้าที่สูงสุดแห่งฝ่ายยุติธรรม