บทที่ 2: หลักการพื้นฐาน และตัวอย่างสถานการณ์ Roleplay ใน RedM (Server: Red Dawn)
ต่อไปนี้คือตัวอย่างสถานการณ์ในแต่ละหัวข้อ เพื่อให้เห็นภาพการกระทำที่ (ถูก) และ (ผิด) ได้อย่างชัดเจน
2.1. หลักสามัญสำนึกและแฟร์เพลย์ (Common Sense & Fair Play)
หลักการนี้คือรากฐานสำคัญของการอยู่ร่วมกันในสังคม Roleplay หมายถึงการใช้หลักเหตุและผลที่คนทั่วไปพึงมีในการตัดสินใจ และการเล่นอย่างยุติธรรม ไม่พยายามใช้ช่องโหว่ของระบบเกม (Exploit) หรือกฎกติกาเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ให้ตนเองอย่างไม่เป็นธรรม รวมถึงการให้เกียรติซึ่งกันและกัน เพื่อสร้างบรรยากาศการเล่นที่ดีและสนุกสนานสำหรับทุกคน
ตัวอย่างที่ผิด (Incorrect)
- ตัวอย่างที่ 1: คุณเจอบัคที่ทำให้สามารถเก็บสมุนไพรชนิดเดิมได้เรื่อยๆ โดยไม่ต้องรอเวลาเกิดใหม่ คุณจึงยืนเก็บที่จุดเดิมเป็นชั่วโมงเพื่อทำเงินอย่างมหาศาล
- ตัวอย่างที่ 2: คุณเห็นผู้เล่นใหม่เพิ่งเข้าเกมที่สถานีรถไฟ Valentine คุณและเพื่อนก็เข้าไปรุมยิงเพื่อความสนุกสนาน โดยไม่มีบทพูดหรือสถานการณ์นำมาก่อน
- ตัวอย่างที่ 3: คุณใช้ท่าทาง (Emote) บางอย่างเพื่อทำให้ตัวละครของคุณสามารถเดินทะลุกำแพงของธนาคารเข้าไปในห้องนิรภัยได้ โดยไม่ต้องเล่นบทบาทการงัดแงะหรือปล้นตามปกติ
ตัวอย่างที่ถูก (Correct)
- ตัวอย่างที่ 1: หลังจากดวลปืนแพ้ คุณยอมรับความพ่ายแพ้ของตัวละคร และอาจจะเล่นบทบาทต่อว่าเจ็บแค้นและจะหาทางเอาคืนในภายภาคหน้า แทนที่จะโวยวายนอกบท (OOC) ว่าอีกฝ่ายโกง
- ตัวอย่างที่ 2: คุณเจอผู้เล่นที่หลุดออกจากเกมทิ้งม้าที่บรรทุกหนังสัตว์ราคาแพงไว้ แทนที่จะขโมยของไปซึ่งเป็นการฉวยโอกาส คุณเลือกที่จะเมินเฉยหรือแจ้งแอดมินให้ทราบถึงปัญหานี้
2.2. การสวมบทบาท (In Character - IC)
คือหัวใจของการ Roleplay การกระทำ คำพูด และการตัดสินใจทั้งหมดจะต้องมาจากมุมมองของ "ตัวละคร" ที่คุณสวมบทบาทอยู่เท่านั้น ผู้เล่นต้องสวมบทบาทให้สอดคล้องกับพื้นเพ นิสัยใจคอ และเรื่องราวที่สร้างขึ้นมาสำหรับตัวละครนั้นๆ เปรียบเสมือนคุณเป็นนักแสดงที่กำลังเล่นละครอยู่ ทุกอย่างที่แสดงออกมาคือบทบาทของตัวละคร ไม่ใช่ตัวตนของผู้เล่น
ตัวอย่างที่ผิด (Incorrect)
- ตัวอย่างที่ 1: ระหว่างที่กำลังปล้นธนาคารอยู่ คุณพูดผ่านไมค์ว่า "เดี๋ยวๆ ทุกคน แป๊บนึงนะ แม่เรียกกินข้าว"
- ตัวอย่างที่ 2: ตัวละครของคุณเป็นนักล่าค่าหัวที่เกลียดชังคนนอกกฎหมาย แต่เมื่อเจอเพื่อนของคุณเล่นบทโจร คุณกลับวิ่งเข้าไปทักทายและหัวเราะด้วยกันอย่างสนิทสนม
- ตัวอย่างที่ 3: ขณะกำลังเจรจาต่อรองเรื่องสำคัญในเกม คุณก็พูดขึ้นมาว่า "โทษทีนะ พอดีคอมแลคมากเลย"
ตัวอย่างที่ถูก (Correct)
- ตัวอย่างที่ 1: ตัวละครของคุณเป็นหมอ คุณจะพูดจาสุภาพ ใช้ศัพท์ทางการแพทย์ (เท่าที่รู้) และเมื่อเจอคนเจ็บก็จะเข้าไปช่วยปฐมพยาบาลตามบทบาท
- ตัวอย่างที่ 2: ตัวละครของคุณเป็นคาวบอยบ้านนอก พูดจาโผงผาง เมื่อเห็นเทคโนโลยีใหม่ๆ ในเมือง St. Denis ก็จะแสดงท่าทีตื่นตาตื่นใจและไม่เข้าใจตามบทบาท
2.3. การสื่อสารนอกบทบาท (Out of Character - OOC)
คือการสื่อสารใดๆ ก็ตามที่มาจากตัว "ผู้เล่น" ไม่ใช่ตัวละคร เป็นการพูดคุยในเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องในเกม เช่น ปัญหาทางเทคนิค การนัดแนะนอกเกม หรือการพูดคุยเรื่องในชีวิตจริง การสื่อสารประเภทนี้จะต้องทำผ่านช่องทางที่เซิร์ฟเวอร์กำหนดไว้โดยเฉพาะ (เช่น /ooc, Discord) เพื่อไม่ให้เป็นการทำลายบรรยากาศการสวมบทบาท (IC) ของผู้เล่นคนอื่น
ตัวอย่างที่ผิด (Incorrect)
- ตัวอย่างที่ 1: คุณตะโกนในเกมว่า "แอดมินครับ! ช่วยวาร์ปผมไปที่ Blackwater หน่อย!"
- ตัวอย่างที่ 2: หลังจากถูกปล้น คุณตะโกนใส่ผู้เล่นอื่นกลางวง RP ว่า "ทำแบบนี้ผิดกฎนะเว้ย ปล้นตรงนี้ไม่ได้!"
- ตัวอย่างที่ 3: ตัวละครของคุณกำลังนอนบาดเจ็บอยู่ และมีคนกำลังเล่นบทช่วยชีวิต แต่คุณกลับพูดขึ้นมาว่า "ไม่เป็นไร เดี๋ยวอีกแป๊บก็กดเกิดใหม่ได้แล้ว"
ตัวอย่างที่ถูก (Correct)
- ตัวอย่างที่ 1: คุณพิมพ์ในช่องแชท OOC ของ Discord ว่า "ภาพหน้าจอผมกระตุกจังเลยครับช่วงนี้" เพื่อแจ้งปัญหาทางเทคนิค
- ตัวอย่างที่ 2: คุณทักเพื่อนใน Discord ว่า "คืนนี้เข้า Red Dawn ไหม ไปล่าค่าหัวกันต่อจากเนื้อเรื่องเมื่อวาน" เพื่อวางแผนการเล่นในเกม
2.4. ห้ามนำข้อมูลนอกเกมมาใช้ (Meta Gaming - MG)
Meta Gaming (MG) คือการนำข้อมูลใดๆ ก็ตามที่ "ผู้เล่น" ได้รับรู้มาจากช่องทางนอกเกม (OOC) มาใช้เพื่อสร้างความได้เปรียบให้กับ "ตัวละคร" ของตนเองในสถานการณ์ในเกม (IC) การกระทำนี้ถือเป็นการทำลายความสมจริงอย่างรุนแรง เพราะตัวละครของคุณไม่ควรจะรู้ข้อมูลที่ไม่ได้ประสบหรือรับรู้ด้วยตนเองภายในโลกของเกม เช่น ข้อมูลจากสตรีม, แชท Discord, หรือแม้กระทั่งการมองเห็นป้ายชื่อของผู้เล่นอื่น
ตัวอย่างที่ผิด (Incorrect)
- ตัวอย่างที่ 1: คุณกำลังดูสตรีมของนายอำเภอและเห็นว่าเขากำลังซ่อนตัวอยู่ในโรงนาแห่งหนึ่ง คุณจึงขี่ม้าตรงไปยังโรงนานั้นและเข้าไปยิงเขาทันที
- ตัวอย่างที่ 2: เพื่อนของคุณพิมพ์บอกใน Discord ว่า "แก๊งคู่อริกำลังจะไปปล้นฟาร์มวัว" ตัวละครของคุณจึงรีบไปดักซุ่มโจมตี ทั้งๆ ที่ในเกมไม่มีใครมาบอกข้อมูลนี้
- ตัวอย่างที่ 3: คุณเห็นผู้เล่นคนหนึ่งแต่ไม่เคยเจอกันในเกมมาก่อน คุณเดินเข้าไปทักทายและเรียกชื่อตัวละครเขาถูกต้องทันที
ตัวอย่างที่ถูก (Correct)
- ตัวอย่างที่ 1: คุณอยากรู้ว่าเพื่อนของคุณที่เล่นด้วยกันอยู่ที่ไหนในเมือง แทนที่จะถามผ่าน Discord คุณให้ตัวละครของคุณเดินไปถามตาม Saloon หรือถามนายอำเภอว่า "เห็นพ่อหนุ่มหน้าบากคนนั้นบ้างไหม?"
- ตัวอย่างที่ 2: คุณเห็นผู้เล่นที่คุณไม่รู้จักกำลังทำตัวน่าสงสัย คุณเข้าไปพูดคุยทำความรู้จักในบทบาท และทักทายเขาว่า "ว่าไงเพื่อนยาก ไม่เคยเห็นหน้าในเมืองนี้เลยนะ"
2.5. ห้ามทำเกินศักยภาพตัวละคร (Power Gaming - PG)
Power Gaming (PG) คือการกระทำที่แสดงความสามารถเกินกว่าที่มนุษย์ทั่วไปจะทำได้ หรือการเล่นในลักษณะที่บังคับการกระทำหรือผลลัพธ์ของเรื่องราวให้กับผู้เล่นคนอื่นโดยไม่ให้ทางเลือกในการตอบโต้ การเล่นที่ดีคือการ "พยายาม" กระทำบางสิ่ง และปล่อยให้ผู้เล่นอีกฝ่ายได้มีโอกาสตอบสนองต่อการกระทำนั้น เพื่อให้เรื่องราวดำเนินไปอย่างเป็นธรรมชาติ
ตัวอย่างที่ผิด (Incorrect)
- ตัวอย่างที่ 1: ตัวละครของคุณถูกยิงเข้าที่ขาอย่างจัง แต่แทนที่จะแสดงอาการบาดเจ็บ คุณกลับลุกขึ้นวิ่งเต็มสปีดเพื่อไล่ตามศัตรูต่อไปราวกับไม่รู้สึกเจ็บปวดใดๆ
- ตัวอย่างที่ 2: คุณถูกคู่อริ 5 คนล้อมไว้และเอาปืนจ่ออยู่ แต่คุณกลับตะโกนท้าทายและเปิดฉากยิงสู้กับทุกคนทันที ซึ่งเป็นการกระทำที่เหนือมนุษย์
- ตัวอย่างที่ 3: คุณจับตัวคู่ปรับได้ และประกาศว่า "พอค้นตัวก็เจอจดหมายลับที่ระบุแผนการทั้งหมดของแก๊งแก" ซึ่งเป็นการสร้างข้อมูลขึ้นมาเองและบังคับเรื่องราวของอีกฝ่าย
ตัวอย่างที่ถูก (Correct)
- ตัวอย่างที่ 1: หลังจากถูกยิงที่แขนระหว่างการต่อสู้ ตัวละครของคุณแสดงอาการเจ็บปวดอย่างเห็นได้ชัด รีบหาที่กำบัง และอาจจะตะโกนว่า "แขนฉันโดนยิง! เล็งไม่ถนัดแล้ว!"
- ตัวอย่างที่ 2: เมื่อเห็นศัตรูกำลังจะวิ่งหนี คุณแสดงบทบาทพุ่งเข้าไปเพื่อจะรวบตัวเขาจากด้านหลัง การกระทำเช่นนี้เป็นการ "พยายาม" ซึ่งเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้แสดงบทบาทตอบโต้
2.6. การเห็นคุณค่าในชีวิต (Value of Life - VOL)
หลักการนี้บังคับให้ตัวละครของคุณต้องให้ความสำคัญกับชีวิตของตนเองเป็นอันดับแรก เหมือนกับที่คนปกติจะทำในชีวิตจริง เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์อันตรายถึงชีวิต ตัวละครควรแสดงความกลัวและตัดสินใจอย่างสมเหตุสมผลเพื่อรักษาชีวิตไว้ ไม่ใช่ทำตัวห้าวหาญหรือท้าทายความตายโดยไม่มีเหตุผลที่สมควรตามบทบาทรองรับ
ตัวอย่างที่ผิด (Incorrect)
- ตัวอย่างที่ 1: มีโจรเอาปืนจ่อหัวคุณแล้วบอกให้ส่งเงินมา แต่คุณกลับชกหน้าเขาแทนที่จะทำตามหรือพยายามเจรจาต่อรอง
- ตัวอย่างที่ 2: คุณเป็นพลเมืองธรรมดาๆ แต่กลับวิ่งเข้าไปกลางวงดวลปืนระหว่างแก๊งมาเฟีย 2 แก๊งโดยไม่มีเหตุผล
- ตัวอย่างที่ 3: คุณกำลังถูกไล่ล่าบนหลังม้า แทนที่จะหาทางหนีหรือยอมจำนน คุณกลับจงใจขี่ม้ากระโดดลงจากหน้าผาสูงชัน
ตัวอย่างที่ถูก (Correct)
- ตัวอย่างที่ 1: เมื่อถูกนายอำเภอไล่ล่าจนจนมุมที่หน้าผา คุณเลือกที่จะยอมมอบตัวเพราะเป็นทางรอดที่ดีที่สุดในสถานการณ์นั้น
- ตัวอย่างที่ 2: เมื่อถูกคนตัวใหญ่กว่าหาเรื่องใน Saloon ตัวละครของคุณเลือกที่จะเดินหนีออกจากร้านเพื่อหลีกเลี่ยงการต่อสู้ที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
2.7. การฆ่าตัวตาย (Suicide - SC)
ห้ามการฆ่าตัวตายของตัวละครเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบทาง Roleplay โดยเด็ดขาด เช่น การหนีการจับกุม, การลบล้างหนี้สิน, หรือการจบเรื่องราวที่ตัวเองไม่พอใจ การกระทำเช่นนี้ถือเป็นการทำลายเนื้อเรื่องและประสบการณ์ของผู้เล่นอื่นที่เกี่ยวข้อง การตายของตัวละครควรจะเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ใน Roleplay เท่านั้น ไม่ใช่จากการตัดสินใจของผู้เล่นเพื่อหนีปัญหา
ตัวอย่างที่ผิด (Incorrect)
- ตัวอย่างที่ 1: คุณกำลังจะถูกจับกุมและต้องติดคุก คุณจึงกระโดดตึกตายเพื่อจะได้ไปเกิดใหม่ทันทีและไม่ต้องเล่นบทติดคุก
- ตัวอย่างที่ 2: คุณเล่นพนันแพ้จนหมดตัว แทนที่จะเล่นบทบาทเป็นคนสิ้นเนื้อประดาตัว คุณกลับขี่ม้าไปที่สะพานแล้วกระโดดน้ำตายเพื่อจบเรื่องราว
- ตัวอย่างที่ 3: คุณเป็นหนี้ผู้เล่นอื่นอยู่ 200 USD เมื่อเขามาทวงหนี้ คุณก็วิ่งไปกระโดดหน้าผาตายหลีกเลี่ยงการจ่ายหนี้
ตัวอย่างที่ถูก (Correct)
- ตัวอย่างที่ 1: ตัวละครของคุณล้มละลายและสิ้นหวัง คุณอาจจะเล่นบทบาทติดเหล้าอย่างหนัก หรือหันไปประกอบอาชญากรรมเพื่อหาเงิน ซึ่งเป็นการสร้างเรื่องราวที่น่าสนใจต่อไป
- ตัวอย่างที่ 2: เมื่อถูกจับและทรมานอย่างหนัก ตัวละครของคุณพยายามอดทนและรักษาชีวิตไว้ โดยหวังว่าจะมีคนมาช่วยหรือหาจังหวะหลบหนีได้
2.8. การคุกคามทางเพศ (Sexual Harassment - SH)
ห้ามการกระทำ คำพูด หรือการสื่อสารใดๆ ที่มีลักษณะเป็นการคุกคามทางเพศต่อผู้เล่นอื่นโดยเด็ดขาด เซิร์ฟเวอร์มีนโยบายจริงจังกับเรื่องนี้และถือเป็นความผิดร้ายแรง ไม่ว่าการกระทำนั้นจะเกิดขึ้นในบทบาท (IC) หรือนอกบทบาท (OOC) ก็ตาม การเล่น Roleplay ในประเด็นที่ละเอียดอ่อนจะต้องได้รับความยินยอมจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องนอกเกมก่อนเสมอ
ตัวอย่างที่ผิด (Incorrect)
- ตัวอย่างที่ 1: พูดจาแทะโลมตัวละครอื่นในลักษณะที่ส่อไปในทางเพศอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่อีกฝ่ายแสดงท่าทีอึดอัดและได้ร้องขอให้หยุดแล้ว
- ตัวอย่างที่ 2: เล่นบทบาทแตะเนื้อต้องตัวในลักษณะที่ไม่เหมาะสมกับตัวละครอื่น โดยที่ไม่ได้รับการยินยอม "นอกบทบาท (OOC)" จากผู้เล่นคนนั้นก่อน
- ตัวอย่างที่ 3: หลังจากมีปฏิสัมพันธ์ในเกมแล้ว คุณส่งข้อความส่วนตัวไปหาผู้เล่นคนนั้นทาง Discord พร้อมกับข้อความหรือรูปภาพที่ไม่เหมาะสมและส่อไปในทางเพศ
ตัวอย่างที่ถูก (Correct)
- ตัวอย่างที่ 1: หากต้องการเล่นเนื้อเรื่องที่มีความละเอียดอ่อนหรือเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ คุณจะทักไปคุยกับผู้เล่นอีกฝ่ายนอกเกมก่อน เพื่อพูดคุยถึงขอบเขตและทำให้แน่ใจว่าทุกคนสะดวกใจที่จะเล่น
- ตัวอย่างที่ 2: หากมีผู้เล่นคนอื่นเข้ามาแสดงบทบาทหรือพูดจาที่ทำให้คุณ (ผู้เล่น) รู้สึกไม่สบายใจ คุณจะใช้ช่องทาง OOC เพื่อแจ้งให้เขาหยุดการกระทำนั้น หรือรายงานให้แอดมินทราบทันที
บทที่ 3: กฎข้อห้ามในการกระทำ
บทนี้จะอธิบายถึงการกระทำที่ "ห้ามทำโดยเด็ดขาด" ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้เล่นอื่นและระบบของเซิร์ฟเวอร์ การฝ่าฝืนกฎในบทนี้มักมีบทลงโทษที่รุนแรง
3.1. ห้ามทำร้ายผู้เล่นอื่นโดยไม่มีบทบาท (Deathmatch - DM)
Deathmatch (DM) คือการจงใจโจมตี ทำร้าย หรือฆ่าผู้เล่นอื่นโดยปราศจากการปูเรื่องราว (Build-up) หรือการมีปฏิสัมพันธ์ทาง Roleplay ที่สมเหตุสมผลและเพียงพอก่อน ทุกการใช้ความรุนแรงจะต้องมีที่มาที่ไปและแรงจูงใจตามเนื้อเรื่องของตัวละคร ไม่ใช่การกระทำที่เกิดจากความคึกคะนองของผู้เล่น การกระทำอย่างไร้เหตุผลนี้ถือเป็นการทำลายประสบการณ์การเล่นของผู้เล่นอื่นอย่างร้ายแรง
ตัวอย่างที่ผิด (Incorrect)
- ตัวอย่างที่ 1: คุณขี่ม้าเข้ามาในเมือง Valentine แล้วชักปืนยิงผู้เล่นคนแรกที่เห็นทันที เพียงเพราะความสนุกสนาน
- ตัวอย่างที่ 2: ผู้เล่นคนอื่นเดินชนคุณโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่คุณกลับชักปืนยิงเขาทันทีโดยไม่มีการพูดคุยหรือแสดงบทบาทโกรธเคืองเพื่อนำไปสู่ความขัดแย้งก่อน
- ตัวอย่างที่ 3: คุณไม่ชอบเสื้อผ้าหรือม้าของผู้เล่นคนหนึ่ง คุณจึงตัดสินใจยิงเขาทิ้งโดยไม่มีเหตุผลอื่นใดในทาง Roleplay เลย
ตัวอย่างที่ถูก (Correct)
- ตัวอย่างที่ 1: แก๊งของคุณมีเรื่องบาดหมางกับแก๊งคู่อริเรื่องเขตอิทธิพล เมื่อมาเผชิญหน้ากันใน Saloon และมีการต่อปากต่อคำจนสถานการณ์บานปลาย จึงเกิดการดวลปืนกันขึ้น
- ตัวอย่างที่ 2: คุณเล่นบทเป็นนักล่าค่าหัวที่กำลังตามจับผู้ร้ายมีค่าหัว คุณประกาศกร้าวตามบทบาทว่า "ในนามของกฎหมาย ฉันมาเพื่อจับแก!" เมื่อผู้ร้ายขัดขืนและชักปืนสู้ คุณจึงยิงต่อสู้เพื่อจับกุม
3.2. ห้ามแก้แค้นหลังจากตาย (Revenge Killing - RK)
กฎข้อนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญของการเล่น Roleplay ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานของ "New Life Rule" โดยมีหลักการสำคัญคือ: เมื่อตัวละครของคุณสลบหรือเสียชีวิต คุณจะต้องลืมความทรงจำทั้งหมดที่เกิดขึ้นในช่วง 30 นาทีก่อนหน้าที่จะสลบโดยสมบูรณ์
กฎการลืมความจำ 30 นาทีนี้ถูกบังคับใช้ในทุกกรณี ไม่ว่าคุณจะถูกช่วยชีวิตโดยผู้เล่นหมอ, หมอเถื่อน (NPC) หรือกดเกิดใหม่ (Respawn) ก็ตาม คุณจะจำไม่ได้ว่าใคร ทำอะไร ที่ไหน หรืออย่างไรที่นำไปสู่การสลบ/เสียชีวิต ดังนั้น จึงห้ามกลับไปยังสถานที่เกิดเหตุเพื่อแก้แค้น หรือนำข้อมูลในช่วง 30 นาทีก่อนสลบไปใช้ประโยชน์โดยเด็ดขาด
เงื่อนไขการจบบทบาท (Storyline Conclusion)
- กรณีบุคคล: หากคุณสลบและมีคนมาช่วยชีวิต (เช่น หมอ) คุณจะไม่สามารถกลับเข้าไปร่วมสถานการณ์ (Storyline) เดิมที่ทำให้คุณสลบได้อีก
- กรณีกลุ่ม: หากผู้เล่นในกลุ่มของคุณสลบทั้งหมดในสถานการณ์เดียวกัน จะถือว่าสถานการณ์หรือบทบาทนั้นได้ "จบลงทันที" ทุกคนจะต้องลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและแยกย้าย ไม่สามารถรวมตัวกันเพื่อดำเนินเรื่องราวเดิมต่อได้ เพื่อป้องกันการสร้างสถานการณ์ที่วนลูปไม่สิ้นสุด
ตัวอย่างที่ผิด (Incorrect)
- ตัวอย่างที่ 1: คุณถูกยิงสลบหลังโรงนาใน Emerald Ranch หลังจากหมอช่วยคุณ คุณจำได้ว่าใครยิง เลยรีบขี่ม้ากลับไปยิงเขาเพื่อแก้แค้น
- ตัวอย่างที่ 2: หลังจากถูกฆ่าตาย คุณใช้ Discord บอกเพื่อนร่วมแก๊งว่า "ไอ้แจ็คตาเดียวมันยิงฉันที่ท่าเรือ Blackwater ไปจัดการมันให้หน่อย" ซึ่งเป็นการใช้ข้อมูลจากความทรงจำที่ต้องลืมไปแล้ว (Metagaming)
- ตัวอย่างที่ 3: คุณถูกปล้นและยิงจนสลบ เมื่อฟื้นขึ้นมา คุณจำเครื่องแต่งกายของคนร้ายได้ และเมื่อเห็นเขาในเมืองอีกครั้ง คุณก็ชี้เป้าให้เพื่อนร่วมแก๊งไปจัดการ ซึ่งผิดกฎ เพราะคุณต้องลืมเหตุการณ์ในช่วง 30 นาทีก่อนสลบไปแล้ว
- ตัวอย่างที่ 4: แก๊งของคุณปะทะกับศัตรู คุณถูกยิงจนสลบ แต่เพื่อนในแก๊งพาหมอมารักษาคุณ หลังจากฟื้น คุณก็กลับเข้าไปช่วยเพื่อนยิงต่อในสถานการณ์เดิมทันที
ตัวอย่างที่ถูก (Correct)
- ตัวอย่างที่ 1: หลังจากเกิดใหม่หรือมีคนช่วยชีวิต คุณดำเนินเรื่องราวของตัวละครต่อไปโดยปราศจากความทรงจำ 30 นาทีก่อนสลบ หากบังเอิญเจอคู่กรณีในภายหลัง คุณก็ไม่สามารถจดจำได้ว่าเขาคือคนที่ทำร้ายคุณ
- ตัวอย่างที่ 2: เพื่อนในแก๊งของคุณที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ดวลปืน ตัดสินใจตามล่าคู่กรณีเพื่อแก้แค้นให้คุณ ซึ่งสามารถทำได้เพราะตัวละครของพวกเขายังมีความทรงจำเกี่ยวกับเหตุการณ์นั้นอยู่ แต่คุณที่สลบไปแล้วไม่สามารถเข้าร่วมได้
- ตัวอย่างที่ 3: ทั้งแก๊งของคุณถูกยิงจนสลบทั้งหมดในสงครามแก๊ง เมื่อทุกคนฟื้นขึ้นมา (ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด) ทุกคนจะต้องแยกย้ายและถือว่าเรื่องราวนั้นได้จบลงแล้ว ไม่มีการรวมตัวเพื่อกลับไปแก้แค้นในทันที
3.3. ห้ามออกจากเกมเพื่อหนีสถานการณ์ (Combat Logout - CL)
คือการจงใจออกจากเกม ปิดโปรแกรม หรือตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ในขณะที่กำลังอยู่ในสถานการณ์ Roleplay ที่ตัวละครของคุณกำลังเสียเปรียบ เช่น กำลังจะถูกจับ, กำลังจะถูกปล้น, หรือกำลังจะแพ้ในการต่อสู้ การกระทำนี้เป็นการหลีกหนีผลลัพธ์ทาง Roleplay อย่างไม่ยุติธรรมและทำลายความต่อเนื่องของเรื่องราวสำหรับผู้เล่นทุกคนที่เกี่ยวข้อง
ตัวอย่างที่ผิด (Incorrect)
- ตัวอย่างที่ 1: นายอำเภอกำลังจะเข้าจับกุมและใส่กุญแจมือคุณ คุณจึงรีบกด Alt+F4 เพื่อปิดเกมหนี
- ตัวอย่างที่ 2: คุณถูกแก๊งโจรจับตัวได้และกำลังจะถูกปล้น คุณจึงดึงสายแลนออกเพื่อทำให้ตัวเองหลุดออกจากเซิร์ฟเวอร์
- ตัวอย่างที่ 3: ในระหว่างการดวลปืน คุณรู้ตัวว่ากำลังจะแพ้และตาย คุณจึงรีบออกจากเกมเพื่อรักษาอาวุธและไอเทมของตัวละครไว้
ตัวอย่างที่ถูก (Correct)
- ตัวอย่างที่ 1: เมื่อกำลังจะถูกจับกุม คุณยอมเล่นตามบทบาท ให้พวกเขานำตัวไปขังคุก และหาทางหนีหรือรอความช่วยเหลือตามเนื้อเรื่องต่อไป
- ตัวอย่างที่ 2: หากเกมของคุณค้างหรือหลุดโดยไม่ตั้งใจระหว่างสถานการณ์สำคัญ เมื่อกลับเข้าเกมได้ คุณควรรีบติดต่อผู้เล่นที่อยู่ในเหตุการณ์หรือแอดมินเพื่ออธิบายและดำเนินเรื่องราวต่อให้จบ
3.4. ห้ามดักฆ่าผู้เล่นที่จุดเกิด (Spawn Killing - SK)
คือการจงใจไปดักรอเพื่อโจมตีผู้เล่นในบริเวณที่พวกเขาเพิ่งเกิดใหม่ (Respawn) หรือเพิ่งเข้าสู่เซิร์ฟเวอร์ (Spawn) การกระทำนี้เป็นการเอาเปรียบผู้เล่นอื่นอย่างมากในขณะที่พวกเขากำลังอ่อนแอและไม่มีโอกาสได้ตั้งตัว ถือเป็นการทำลายโอกาสในการเริ่มเล่นของผู้เล่นและสร้างบรรยากาศที่ไม่ดีให้กับเซิร์ฟเวอร์
ตัวอย่างที่ผิด (Incorrect)
- ตัวอย่างที่ 1: คุณรู้ว่าผู้เล่นใหม่มักจะเกิดที่สถานีรถไฟในเมืองต่างๆ คุณจึงไปตั้งแก๊งดักรอและยิงทุกคนที่เพิ่งเข้าเกมและปรากฏตัวขึ้นมา
- ตัวอย่างที่ 2: หลังจากที่คุณเพิ่งฆ่าผู้เล่นคนหนึ่งไป คุณได้ไปดักรอใกล้ๆ โรงหมอซึ่งเป็นจุดเกิดใหม่ เพื่อรอฆ่าเขาทันทีที่เขาเกิด
- ตัวอย่างที่ 3: คุณเห็นประกาศว่าผู้เล่นคนหนึ่งกำลังจะเข้าเกม คุณจึงไปดักรอที่แคมป์ของผู้เล่นคนนั้นเพื่อยิงเขาทันทีที่โหลดเข้าเกมเสร็จ
ตัวอย่างที่ถูก (Correct)
- ตัวอย่างที่ 1: คุณเห็นผู้เล่นที่ดูเหมือนเพิ่งเข้าเกม คุณเลือกที่จะเดินเข้าไปทักทายตามบทบาทว่า "เพิ่งเข้าเมืองมาเหรอเพื่อนยาก" แทนที่จะทำร้ายเขา
- ตัวอย่างที่ 2: หากมีการต่อสู้ครั้งใหญ่เกิดขึ้นในเมือง ผู้เล่นที่เพิ่งเกิดใหม่ควรหลีกเลี่ยงพื้นที่ขัดแย้งนั้น การที่วิ่งกลับเข้าไปในวงต่อสู้แล้วถูกยิงโดยไม่ได้เจตนาดักรอ จะไม่นับเป็น Spawn Killing
3.5. ห้ามใช้บัคและช่องโหว่ของเกม (Exploiting & Glitches)
คือการจงใจใช้ประโยชน์จากข้อผิดพลาด (Bug) ของตัวเกม, สคริปต์, หรือระบบต่างๆ ของเซิร์ฟเวอร์ เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวหรือสร้างความได้เปรียบอย่างไม่เป็นธรรม ไม่ว่าจะเป็นการปั๊มเงิน, การทำไอเทมซ้ำ, หรือการเข้าไปในพื้นที่ที่ไม่ได้รับอนุญาต ผู้เล่นที่ดีมีหน้าที่ต้องแจ้งบัคให้ทีมงานทราบ ไม่ใช่นำบัคไปใช้ประโยชน์
ตัวอย่างที่ผิด (Incorrect)
- ตัวอย่างที่ 1: คุณค้นพบวิธีการทำแร่ทองซ้ำๆ ได้โดยการทำอนิเมชันบางอย่างกับกองไฟ คุณจึงใช้ช่องโหว่นี้เพื่อสร้างความร่ำรวยให้ตัวเอง
- ตัวอย่างที่ 2: คุณเจอมุมตึกที่ทำให้คุณสามารถยิงผู้เล่นคนอื่นได้ แต่ไม่มีใครสามารถยิงคุณกลับได้ (บัคกำแพง) และคุณใช้มุมนั้นเพื่อเอาเปรียบในการต่อสู้
- ตัวอย่างที่ 3: คุณพบว่าอานม้าบางชนิดมีบัคทำให้ค่าพลังม้าไม่ลดลงเลย คุณจึงจงใจใช้อานม้านั้นเพื่อให้ได้เปรียบในการไล่ล่าหรือหลบหนี
ตัวอย่างที่ถูก (Correct)
- ตัวอย่างที่ 1: เมื่อคุณค้นพบบัคโดยบังเอิญ คุณควรหยุดการกระทำนั้นทันที บันทึกหลักฐาน (เช่น คลิปวิดีโอ) แล้วส่งเรื่องแจ้งทีมงานผ่านช่องทางที่กำหนดโดยเร็วที่สุด
- ตัวอย่างที่ 2: ตัวละครของคุณเกิดบัคหลุดลงไปใต้แผนที่ คุณควรแจ้งขอความช่วยเหลือจากแอดมินให้ช่วยแก้ไข ไม่ใช่พยายามใช้ประโยชน์จากบัคเพื่อสอดแนมหรือเคลื่อนที่ไปที่อื่น
3.6. ห้ามใช้โปรแกรมช่วยเล่น (Cheating)
ถือเป็นความผิดร้ายแรงที่สุด คือการติดตั้งหรือใช้โปรแกรมหรือเครื่องมือจากภายนอกที่เข้ามาดัดแปลงการทำงานของตัวเกม เพื่อให้ตนเองได้เปรียบผู้เล่นอื่นอย่างมหาศาล เช่น โปรแกรมช่วยเล็ง (Aimbot), โปรแกรมมองทะลุกำแพง (Wallhack), หรือสคริปต์ต่างๆ การกระทำนี้ไม่มีการประนีประนอมและมีบทลงโทษเป็นการแบนถาวรออกจากเซิร์ฟเวอร์เท่านั้น ผู้เล่นที่เลือกเส้นทางนี้ไม่เพียงแต่แสดงถึงการขาดน้ำใจนักกีฬา แต่ยังเป็นการกระทำที่ทำลายความไว้วางใจและความสนุกสนานของทั้งคอมมูนิตี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้โดยเด็ดขาด จัดอยู่ในประเภท "ขยะสังคม"
ตัวอย่างที่ผิด (Incorrect)
- ตัวอย่างที่ 1: ติดตั้งโปรแกรมช่วยเล็ง ที่ทำให้เป้าปืนของคุณล็อคเข้าที่ศีรษะของศัตรูโดยอัตโนมัติ
- ตัวอย่างที่ 2: ใช้โปรแกรมที่ทำให้สามารถมองเห็นตำแหน่งของผู้เล่น, สัตว์, และไอเทมต่างๆ ทะลุผ่านกำแพงและสิ่งกีดขวางได้
- ตัวอย่างที่ 3: ใช้สคริปต์ที่ทำให้ตัวละครเคลื่อนที่เร็วกว่าปกติ (Speed Hack) หรือสคริปต์ที่ช่วยเก็บของให้โดยอัตโนมัติ
ตัวอย่างที่ถูก (Correct)
- ตัวอย่างที่ 1: คุณเล่นเกมตามปกติและใช้ทักษะความสามารถของตัวเองในการฝึกฝนและพัฒนาการเล่นให้ดีขึ้น
- ตัวอย่างที่ 2: หากคุณสงสัยว่าผู้เล่นคนอื่นอาจใช้โปรแกรมช่วยเล่น คุณควรเก็บหลักฐาน เช่น อัดคลิปวิดีโอพฤติกรรมที่น่าสงสัยนั้น แล้วส่งรายงานให้ทีมงานตรวจสอบเป็นการภายใน ไม่กล่าวหาในที่สาธารณะ
บทที่ 4: กฎและกติกาของเซิร์ฟเวอร์
4.1. การตั้งชื่อ (Naming Policy)
ชื่อตัวละคร:
ต้องเป็นชื่อที่สมเหตุสมผลและไม่ล้อเลียนหรืออ้างอิงจากบุคคลที่มีชื่อเสียงหรือตัวละครจากสื่ออื่น
ชื่อ
Steam: ชื่อโปรไฟล์ Steam ของคุณจะต้องตั้งให้ตรงกับชื่อ-นามสกุลของตัวละครที่เล่นอยู่ในขณะนั้น
หากไม่ตรงจะถูกเตือนหรือเตะออกจากเซิร์ฟเวอร์
4.2. การแชร์บัญชีและหลีกเลี่ยงการแบน (Account Policy)
บัญชีของคุณคือความรับผิดชอบของคุณ ห้ามให้ผู้อื่นยืมหรือเข้ามาเล่นในบัญชีของคุณโดยเด็ดขาด
หากคุณถูกแบน
ห้ามพยายามเข้าเซิร์ฟเวอร์ด้วยบัญชีอื่น การกระทำดังกล่าวจะส่งผลให้ถูกแบนถาวรทุกบัญชีที่เกี่ยวข้อง
4.3. การรีสตาร์ทเซิร์ฟเวอร์ (Server Restart)
เซิร์ฟเวอร์จะรีสตาร์ทตามเวลาที่กำหนด (05:00 น. และ 17:00 น.) โดยจะมีการแจ้งเตือนล่วงหน้า 30 นาที
(หรืออาจเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต)
ในช่วง 30 นาทีก่อนและหลังการรีสตาร์ท
ห้ามเริ่มสตอรี่ที่เกี่ยวข้องกับการปะทะหรืออาชญากรรม
4.4. การแทรกแซงเรื่องราวผู้อื่น (Story Insertion)
ห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือแทรกแซงเรื่องราว (Storyline)
ของผู้เล่นอื่นโดยที่ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของเรื่องราวนั้นหรือไม่ได้รับอนุญาต
การจะเข้าร่วมสตอรี่ของผู้อื่นต้องได้รับการยินยอมก่อนเท่านั้น
บทที่ 5: กฎเศรษฐกิจและการซื้อขาย
5.1. การสนับสนุนเซิร์ฟเวอร์
ผู้เล่นสามารถสนับสนุนเซิร์ฟเวอร์เพื่อรับ "ตั๋วสนับสนุน" ได้ โดย 1 ทอง มีมูลค่าเท่ากับ 10 บาท
- การสนับสนุนนี้ต้องทำรายการผ่านหน้าเว็บ "สนับสนุนเรา" reddawn.city/shop เท่านั้น
จะไม่มีการดำเนินการผ่านช่องทางอื่น
- โปรดระวังมิจฉาชีพ แอบอ้างชื่อทีมงาน RED DAWN
เพื่อหลอกลวงขอข้อมูลส่วนตัวหรือชักชวนให้สนับสนุนเซิร์ฟเวอร์ผ่านช่องทางอื่น
ทีมงาน RED DAWN ไม่มีนโยบายในการส่งข้อความส่วนตัว (ทักแชท)
ไปยังผู้เล่นเพื่อร้องขอการสนับสนุนเซิร์ฟเวอร์ในทุกกรณี การสนับสนุนทั้งหมดจะต้องดำเนินการผ่านหน้าเว็บ "สนับสนุนเรา"
reddawn.city/shop
เท่านั้น หากพบเห็นพฤติกรรมต้องสงสัย กรุณาแจ้งทีมงานโดยตรงผ่านช่องทาง Discord Ticket ทันที
5.2. ห้ามการซื้อขายด้วยเงินจริงระหว่างผู้เล่น (No RWT)
ห้ามการซื้อขาย แลกเปลี่ยน หรือโอนย้ายไอเทม, เงินในเกม, หรือตัวละคร (OOC)
ระหว่างผู้เล่นโดยใช้เงินในชีวิตจริงโดยเด็ดขาด
การกระทำดังกล่าวถือเป็นความผิดร้ายแรงและจะถูกลงโทษทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย
5.3. กฎตลาดกลาง (Marketplace Rules)
- ห้ามวางขายสินค้าผิดหมวดหมู่
- ห้ามตั้งราคาสินค้าสูงเกินจริงเพื่อเจตนาฝากของในตลาด
- สินค้าที่ไม่มีประโยชน์หรือเป็นขยะ ไม่ควรนำมาวางขาย
- ห้ามนำสิ่งของที่ซื้อจากร้านค้า NPC มาวางขาย
- คลังในตลาดกลางไม่ใช่สถานที่ที่จะฝากของได้ เนื่องจากว่าสคริปต์มีการ Update ตลอดเวลา การฝากของไว้ในคลังตลาดกลางนั้น อาจจะทำให้สิ่งของนั้นหายไปได้ และทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการไม่รับผิดชอบต่อสิ่งนี้
หากทีมงานตรวจสอบพบการกระทำผิดกฎดังกล่าว จะทำการลบไอเทมนั้นๆ ออกจากตลาดกลางทันทีโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า และผู้เล่นจะไม่ได้รับไอเทมคืน
5.4. การค้างชำระบิล (Outstanding Bills)
หากผู้เล่นมียอดค้างชำระบิลเกิน $50 เป็นระยะเวลาเกิน 3 วัน ทีมงานจะทำการรีเซ็ตตัวละคร (รีตัว) ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
บทที่ 6: กฎองค์กรและสตอรี่เฉพาะทาง
6.1. กฎคาราวานและครอบครัว (Caravan & Family)
- การจัดตั้ง: ต้องลงทะเบียนกับทีมงาน มีจำนวนสมาชิกขั้นต่ำ 4 คน และมีเอกลักษณ์ของกลุ่มชัดเจน (เช่น
ชุด, เรื่องราว)
- จำนวนสมาชิก: คาราวานสูงสุด 8 คน , ครอบครัวสูงสุด 8 คน
- พันธมิตร: ห้ามการเป็นพันธมิตรกันระหว่างคาราวานหรือครอบครัวเพื่อสร้างอิทธิพลที่มากเกินไป
อนุญาตเพียงการค้าขายระหว่างกัน
- การแต่งกาย: สมาชิกต้องสวมใส่ชุดที่เป็นเอกลักษณ์ของกลุ่มเมื่อทำกิจกรรมหรืออยู่ในสตอรี่
เพื่อให้ง่ายต่อการแยกแยะ
6.2. สตอรี่การรีดไถ (Extortion)
- ผู้รีดไถสามารถรีดไถเงินได้ไม่เกิน $100 ต่อครั้ง และห้ามรีดไถอาวุธ
- สามารถทำร้ายได้แค่บาดเจ็บ ห้ามถึงขั้นสลบ
- มีคูลดาวน์ 3 ชั่วโมงต่อการรีดไถ 1 ครั้ง และห้ามรีดไถคนเดิม หรือให้เพื่อนมารีดไถ่ซ้ำใน 24 ชั่วโมง
- ผู้ถูกรีดไถมีสิทธิ์ต่อสู้หากผู้รีดไถมีจำนวนน้อย (ไม่เกิน 4 คน) และสามารถแจ้งความได้ภายใน 3 ชั่วโมง
6.3. สตอรี่ล่าค่าหัว (Bounty Hunting)
- ผู้ที่มีค่าหัวจะไม่สามารถเปลี่ยนเสื้อผ้าหรือปลอมตัวได้
และไม่สามารถทำสตอรี่อื่นได้จนกว่าจะถูกจับหรือหมายหมดอายุ (48 ชั่วโมง)
- นักล่าค่าหัวต้องแน่ใจว่าเป้าหมายมีค่าหัวจริงๆ และควรเน้นการ "จับเป็น" มากกว่า "จับตาย"
- ประชาชนทั่วไปสามารถรวมตัวกันเพื่อล่าค่าหัวได้ แต่ต้องไม่เกิน 10 คน
6.4. กฎการเป็นพันธมิตรในการปะทะ (Alliance in Combat)
- โดยพื้นฐานแล้ว ประชาชนทั่วไป, คาราวาน, และครอบครัว ห้ามวางแผนร่วมกันเพื่อโจมตีเป้าหมายเดียวกัน
- ข้อยกเว้น: หากถูกโจมตีโดยไม่คาดคิด สามารถร่วมมือกันเพื่อ "ป้องกันตัว" ได้
แต่จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมไม่เกิน 10 คนในบริเวณเดียวกันเพื่อป้องกันปัญหาทางเทคนิค
6.5. กฎการลักพาตัว (Kidnapping Rules)
- สามารถเรียกค่าไถ่ได้สูงสุดไม่เกิน 300 ดอลลาร์
- ห้ามบังคับให้ตัวประกันไปเบิกเงินที่ธนาคารโดยเด็ดขาด
การกระทำดังกล่าวจะถูกพิจารณาว่าเข้าข่ายการซื้อขายด้วยเงินจริง (RWT) ซึ่งเป็นความผิดร้ายแรง
6.6. กฎการปล้นรถไฟ (Train Robbery Rules)
- ผู้เล่นสามารถปล้นรถไฟได้ แต่ต้องมีบทบาทสมมติที่ชัดเจน
โดยต้องอนุญาตให้ผู้เล่นทั่วไปที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง (ประชาชน) ลงจากรถไฟให้หมดก่อนเริ่มเรื่องราวการปล้น
- การปล้นรถไฟอนุญาตให้ทำได้เพื่อชิงทรัพย์สินเท่านั้น
ไม่สามารถใช้เป็นส่วนหนึ่งของสตอรี่อื่นที่ต่อเนื่องได้
6.7. กฎการปล้นธนาคาร (Bank Robbery Rules)
สำหรับฝ่ายโจร (ผู้ปล้น):
- จำกัดจำนวนผู้ปล้นไม่เกิน 8 คน
- ต้องปล่อยตัวประกันออกจากธนาคารก่อน แล้วจึงค่อยทำการขนเงิน
- สามารถปล้นธนาคารได้ 1 ครั้งต่อวันเท่านั้น
- หากหลบหนีสำเร็จ และเข้าสู่เขตแดนเถื่อนแล้ว เจ้าหน้าที่ (Lawman) จะไม่สามารถติดตามเข้าไปได้
- หลังจากจบเรื่องราวการปล้นแล้ว ห้ามออกจากเกมเป็นเวลา 60 นาที
- การปล้นธนาคารมีคูลดาวน์ 1 วัน
สำหรับฝ่ายเจ้าหน้าที่ (Lawman):
- จำกัดจำนวนเจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมสถานการณ์ไม่เกิน 10 นาย
- เจ้าหน้าที่จะต้องปล่อยให้ฝ่ายโจรออกจากพื้นที่ธนาคารก่อนจึงจะสามารถเริ่มปฏิบัติการได้
- หากเจ้าหน้าที่จับกุมฝ่ายโจรได้ จะไม่สามารถติดตามผู้ที่หลบหนีเข้าเขตแดนเถื่อนได้เช่นกัน
- หากเจ้าหน้าที่สามารถชิงเงินที่ถูกปล้นกลับมาได้ จะได้รับรางวัลตามที่กำหนด
- เจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมสถานการณ์จะต้องไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนกับธนาคาร
6.8. กฎการต่อสู้และผลของความพ่ายแพ้ (Combat Rules)
- เมื่อการต่อสู้สิ้นสุด ฝ่ายที่พ่ายแพ้ต้องยอมรับผลและไม่พยายามยืดเยื้อเรื่องราวโดยไม่จำเป็น
- ผู้ที่พ่ายแพ้ในการต่อสู้ จะไม่สามารถกลับมาในพื้นที่ปะทะได้ทันที ต้องรอให้มีเรื่องราวใหม่เกิดขึ้นก่อน
- ผู้เล่นแต่ละคนสามารถเข้าร่วมการต่อสู้ได้ 1 ครั้งต่อ 1 ชั่วโมง
และห้ามสลับตัวละครเพื่อหลีกเลี่ยงคูลดาวน์นี้
- หากผู้เล่นเสียชีวิตจากบัคของเกม ให้ถือเป็นปัญหานอกบทบาท (OOC) หากเป็นเจ้าหน้าที่ (Lawman)
สามารถกลับมาเล่นต่อได้ ส่วนประชาชนทั่วไปต้องเปิดตั๋ว (Ticket) เพื่อให้ทีมงานพิจารณา
- ห้ามเก็บของจากผู้เล่นอื่นในระหว่างที่มีกิจกรรม
- หากคุณเป็นผู้ริเริ่มเรื่องราวการต่อสู้ คุณต้องอยู่จนจบ หากออกจากเกมจะถือว่ายอมแพ้ทันที
- หากฝ่ายที่พ่ายแพ้มีตัวประกันอยู่ จะต้องปล่อยตัวประกันทั้งหมดทันที ห้ามทำร้ายตัวประกันเพื่อระบายอารมณ์
- หากฝ่ายที่ชนะมีจำนวนคนมากกว่า สามารถตัดสินใจไว้ชีวิตฝ่ายที่แพ้ได้ แต่หากจำนวนคนเท่ากัน
การต่อสู้ต้องดำเนินไปจนกว่าจะสิ้นสุด
- หากเจ้าหน้าที่ (Lawman) เสียชีวิตระหว่างการปะทะ จะไม่สามารถให้เจ้าหน้าที่คนอื่นเข้ามาสวมรอยแทนได้
ยกเว้นในกรณีที่มีเจ้าหน้าที่มากกว่า 2 นายในตอนเริ่มเรื่อง ซึ่งสามารถขอกำลังเสริมได้
แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของความยุติธรรม (Fair Play)
-
ห้ามด่าทอหรือเยาะเย้ยผู้เล่นที่สลบ (No Taunting/Trash-Talking Downed Players) หลังจากที่การต่อสู้สิ้นสุดและมีผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามสลบแล้ว ห้ามฝ่ายที่ชนะกระทำการด่าทอ, พูดจาเยาะเย้ย, สมน้ำหน้า, ยิงซ้ำร่างผู้สลบ หรือแสดงพฤติกรรมที่ไม่ให้เกียรติผู้ที่สลบอยู่โดยเด็ดขาด
6.9. กฎการใช้อาวุธมีด (Knife Usage Rules)
- ห้ามใช้อาวุธมีดเพื่อเปิดการต่อสู้หรือเริ่มเรื่องราว
- สามารถใช้มีดเพื่อป้องกันตัวได้ ก็ต่อเมื่อฝ่ายตรงข้ามใช้มีดหรือมือเปล่าเช่นกัน
- ห้ามใช้มีดเพื่อต่อสู้กับอาวุธปืนโดยเด็ดขาด
- อนุญาตให้ใช้มีดเพื่อข่มขู่ในสถานการณ์ Roleplay ได้
- สามารถใช้มีดเพื่อปลิดชีพในจังหวะสุดท้ายได้
- หากคุณมีอาวุธปืนแต่เลือกที่จะใช้มีด ต้องมีเหตุผลทาง Roleplay ที่สมเหตุสมผลรองรับ
6.10. กฎการใช้เชือก (Lasso Usage Rules)
เชือกเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังและสามารถทำให้ผู้เล่นคนอื่นหมดหนทางสู้ได้โดยสิ้นเชิง ดังนั้น
การใช้เชือกควรทำด้วยความระมัดระวังและใช้เป็นทางเลือกสุดท้าย ไม่ใช่การกระทำแรกในการเริ่มสถานการณ์
6.11. กฎการปล้นผู้เล่น (Rules for Robbing Players)
การแสดงเจตนา: ผู้ที่จะทำการปล้น จำเป็นต้องแสดงเจตนาให้ชัดเจน และพูดให้อีกฝ่ายรับรู้ก่อนว่าจะทำการปล้น หากไม่มีการแสดงเจตนาที่ชัดเจน ไม่ว่าจะโดยวิธีใดก็ตาม ห้ามเดินเข้าไปจับมัดแล้วปล้นเลยโดยที่ไม่มีการสื่อสารก่อนหน้านี้
ทางเลือกของผู้ถูกปล้น: ในระหว่างการเจรจา ผู้ถูกปล้นสามารถเลือกได้ 3 ทาง คือ:
- เจรจาต่อรอง: พูดคุยกับผู้ที่จะปล้น
- ยินยอม: ปล่อยให้ปล้นแต่โดยดี
- ขัดขืน: ทำการต่อสู้หรือหลบหนี (ต้องอยู่ภายใต้กฎ Power Gaming และ Value of Life)
ขีดจำกัดการปล้นสิ่งของ: กรณีที่ปล้นสำเร็จ ห้ามปล้นสิ่งของเกิน 3 ชิ้น และไม่สามารถนำอาวุธปืนไปได้ (เงินสดไม่นับเป็นสิ่งของ)
ขีดจำกัดการปล้นเงินสด: สามารถปล้นเงินสดที่พกติดตัวได้ไม่เกิน 50% แต่สูงสุดไม่เกิน 50 USD ของจำนวนเงินทั้งหมดที่ผู้ถูกปล้นมี
ข้อบังคับหลังการปล้น:
- ผู้ทำการปล้น ห้ามเปลี่ยนชุดเป็นเวลา 48 ชั่วโมง (ตามเวลาจริง)
- กรณีถอดเสื้อผ้าปล้น หากตัดสินใจที่จะไม่ใส่เสื้อผ้าหรือถอดเสื้อผ้าเพื่อปล้น จะต้องอยู่ในสภาพเปลือยกายแบบนั้นไปจนกว่าจะครบ 48 ชั่วโมงเช่นกัน
- จำเป็นต้องอยู่ในเมืองต่ออีกอย่างน้อย 2 ชั่วโมง
- ผู้ทำการปล้นรวมทั้งกลุ่มจะต้องติดคูลดาวน์ (Cool down) ในการปล้นห้ามปล้นบุคคลอื่นๆ ต่อเป็นเวลา 1 ชั่วโมง
- หากมีธุระด่วนจำเป็นต้องออกจากเกม ให้เปิด Ticket เพื่อแจ้งและนัดหมายทีมงานกับคู่กรณีเพื่อมาดำเนินเรื่องราวต่อ และต้องแจ้งให้หน่วยงาน Lawman รับทราบผ่านช่องทางที่กำหนด
ข้อห้ามเด็ดขาด:
การปล้นในสถานการณ์อื่น: หากมีเรื่องราวขัดแย้งอื่นๆ ที่ไม่ได้มีเจตนาปล้นมาตั้งแต่ต้น และคู่กรณีถูกทำให้สลบหรือหมดสภาพการต่อสู้ ห้ามทำการปล้นซ้ำโดยเด็ดขาด
เงื่อนไขการก่อเหตุ: การจะก่อเหตุปล้นผู้เล่นอื่นได้นั้น จำเป็นต้องมี Lawman อยู่ในเมืองอย่างน้อย 5 นายขึ้นไป เพื่อสร้างความยุติธรรมในการเล่น (Fair Play)
6.12. กฎโซนอันตราย (Danger Zone Rules)
โซนอันตรายเป็นพื้นที่ที่ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างสถานการณ์ Roleplay ที่เข้มข้นและท้าทาย เพื่อให้การเล่นในพื้นที่นี้เป็นไปอย่างสร้างสรรค์และยุติธรรม โปรดยึดถือกฎต่อไปนี้เป็นสำคัญ:
-
ห้ามยิงบุคคลที่อยู่ใน "อนิเมชั่นการทำกิจกรรม":
ห้ามโจมตีหรือยิงผู้เล่นอื่นในขณะที่ตัวละครของพวกเขากำลังถูกบังคับให้เคลื่อนไหวตามอนิเมชั่นของเกม ซึ่งทำให้พวกเขาไม่สามารถป้องกันตัว, หลบหนี, หรือสู้กลับได้
-
แยก "ความต้องการของผู้เล่น" ออกจาก "การกระทำของตัวละคร":
ผู้เล่นไม่สามารถใช้โซนอันตรายเป็นข้ออ้างในการสร้างสถานการณ์เพื่อเล่นสนุกฝ่ายเดียวโดยไม่มีเหตุผลทาง Roleplay รองรับ หรือขาดการปูเรื่องราวที่มาที่ไปอย่างสมเหตุสมผล
-
ต้องมี “บทสนทนา” ก่อนมีการปล้นหรือการเล่น:
การกระทำใดๆ ที่จะนำไปสู่ความขัดแย้ง ต้องมีการสื่อสารหรือบทสนทนาเพื่อเปิดประเด็นและนำทางไปสู่เรื่องราวก่อนเสมอ ไม่ใช่การปรากฏตัวแล้วเริ่มใช้กำลังในทันที
-
ห้าม “ดักเกิด” หรือ “รอจังหวะ” หน้าเขตบุคคล:
ห้ามดักรอผู้เล่นที่เพิ่งออกจากบ้าน, จุดเกิดใหม่, หรือเซฟโซน เพื่อฉวยโอกาสโจมตีโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัว ถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่สร้างสรรค์และผิดมารยาทอย่างร้ายแรง
-
สามารถปล้นได้ แต่ต้องมีเหตุผลและเรื่องราวรองรับ:
ผู้เล่นสามารถปล้นโซนอันตรายได้ แต่ต้องมีบทบาทสมมติและพลังงานในการเล่นที่สร้างสรรค์ โดยต้องไม่ทำเพื่อหวังเพียงทรัพย์สินหรือชัยชนะ แต่เพื่อสร้างเรื่องราวที่สนุกสนานร่วมกัน
6.13. กฎสตอรี่การขุดสุสาน (Tomb Robbery Rules)
สุสานเป็นสถานที่แห่งความสงบสุดท้าย แต่ในดินแดนตะวันตกที่ไร้ขื่อแป มันอาจเป็นแหล่งขุมทรัพย์สำหรับผู้กล้าหรือผู้สิ้นหวัง เพื่อให้สตอรี่การแสวงโชคในลักษณะนี้มีความสมดุลและยุติธรรม จึงมีข้อกำหนดดังต่อไปนี้:
- สำหรับฝ่ายโจร (ผู้ขุดค้น):
- จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมไม่เกิน 4 คน
- สำหรับฝ่ายเจ้าหน้าที่ (Lawman):
- จำกัดจำนวนเจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมสถานการณ์ไม่เกิน 5 นาย
- การเข้าแทรกแซงของเจ้าหน้าที่: เจ้าหน้าที่จะสามารถเข้าตรวจสอบหรือระงับเหตุได้ก็ต่อเมื่อได้รับการแจ้งเหตุจากพลเมือง (Roleplay) หรือตรวจพบโดยบังเอิญระหว่างการลาดตระเวนเท่านั้น ห้ามมิให้ไปดักรอที่สุสานโดยไม่มีเหตุอันควร
- การเปิดฉากปะทะ: เจ้าหน้าที่ต้องแสดงตัวและประกาศเจตนาให้ฝ่ายโจรยอมจำนนก่อนเสมอ การยิงต่อสู้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อฝ่ายโจรเริ่มใช้ความรุนแรงหรือพยายามหลบหนี
6.14. กฎการปะทะในเขตเมือง (Rules for Combat in City Areas)
การก่อเหตุปะทะในเขตเมือง ไม่ว่าจะเป็นการยิงกันหรือใช้ความรุนแรงใดๆ ผู้ก่อเหตุจะต้องพึงระลึกไว้เสมอว่าเมืองคือแหล่งชุมชนที่พลุกพล่านและมีผู้คนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก การกระทำของคุณอาจส่งผลกระทบต่อพลเมืองผู้บริสุทธิ์ได้
-
การป้องกันตนเองของพลเมือง: หากคุณเป็นฝ่ายเริ่มการปะทะในเมือง คุณอาจถูกยิงสวนจากทิศทางใดก็ได้โดยพลเมืองคนอื่นๆ ที่ต้องการปกป้องเมือง, ทรัพย์สิน, หรือบุคคลรอบตัว ซึ่งการกระทำของพลเมืองเพื่อป้องกันเหล่านี้ จะไม่ถือเป็นการผิดกฎ DM (Deathmatch)
-
การรวมกลุ่ม: พลเมืองมีสิทธิ์รวมกลุ่มกันเพื่อป้องกันตนเองและเมืองได้โดยไม่มีการจำกัดจำนวน
-
ข้อยกเว้น: กฎข้อนี้ไม่ครอบคลุมถึงสถานการณ์ที่มีกฎเฉพาะทางควบคุมอยู่แล้ว เช่น การปล้นร้านค้า, การปล้นธนาคาร, หรือการขุดสุสาน ซึ่งการจัดการสถานการณ์เหล่านั้นยังคงเป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ Lawman เป็นหลัก
6.15. กฎการใช้สัตว์เลี้ยงในการปะทะ (Rules for Using Pets in Combat)
สัตว์เลี้ยงเป็นส่วนหนึ่งของโลก Roleplay ที่ช่วยสร้างสีสันและมิติให้กับตัวละคร อย่างไรก็ตาม เพื่อรักษาความสมดุลและยุติธรรมในการปะทะ จึงมีการกำหนดขอบเขตการใช้งานดังนี้:
-
ข้อห้ามหลัก: ห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งขององค์ประกอบการต่อสู้หลัก ในสถานการณ์การปะทะที่เป็นกิจลักษณะหรือมีการวางแผนมาล่วงหน้าโดยเด็ดขาด เช่น สงครามคาราวาน, การปล้นธนาคาร, การดักซุ่มโจมตีตามแผน เป็นต้น
-
ข้อยกเว้น: สามารถใช้สัตว์เลี้ยงเพื่อช่วยป้องกันตัวได้ หากเจ้าของถูกโจมตีโดยไม่คาดคิดในสถานการณ์ทั่วไป เช่น ขณะพาสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่น แล้วถูกปล้น, ถูกรีดไถ หรือถูกทำร้ายโดยที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสตอรี่ที่วางแผนไว้
เจตนารมณ์ของกฎ: เพื่อป้องกันการใช้สัตว์เลี้ยงเป็น 'อาวุธ' เพิ่มเติมในสถานการณ์ที่วางแผนมาแล้ว ซึ่งจะสร้างความได้เปรียบที่ไม่ยุติธรรม แต่ยังคงเปิดโอกาสให้สัตว์เลี้ยงสามารถแสดงบทบาทปกป้องเจ้าของได้ในสถานการณ์ฉุกเฉินที่สมเหตุสมผล
บทที่ 7: การตัดสินและบทลงโทษ
ที่ Red Dawn เราเชื่อมั่นใน “ความยุติธรรมที่ยืดหยุ่น” เราเข้าใจดีว่าทุกสถานการณ์มีรายละเอียดและบริบทที่แตกต่างกัน ทีมงานจึงไม่ได้ยึดติดกับบทลงโทษตามที่ระบุไว้ตายตัว แต่จะใช้ ดุลยพินิจ เพื่อประเมินจากปัจจัยแวดล้อมอย่างรอบด้าน ประกอบด้วย:
- เจตนาและความตั้งใจของผู้กระทำ
- ความรุนแรงและผลกระทบที่เกิดขึ้น
- พฤติกรรมการยอมรับผิดและการสำนึกตน
ด้วยเหตุนี้ แม้จะเป็นการกระทำผิดในลักษณะเดียวกัน บทลงโทษที่ผู้เล่นแต่ละคนได้รับอาจแตกต่างกันไปตามพฤติการณ์โดยรวม
7.1. การแจ้งเรื่องร้องเรียน
- การแจ้งความผิดต้องมีหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอที่ชัดเจนและมีเสียงของทุกฝ่ายเกี่ยวข้อง
- ต้องแจ้งเรื่องภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากเกิดเหตุการณ์
- การแจ้งเรื่องโดยไม่มีการไตร่ตรองหรือมีเจตนากลั่นแกล้ง ผู้แจ้งจะถูกลงโทษเสียเอง
- คำตัดสินของทีมงานถือเป็นที่สิ้นสุด
7.2. ระดับการลงโทษ
การลงโทษจะพิจารณาจากความรุนแรงและเจตนา โดยมีลำดับขั้นดังนี้:
- การตักเตือน: สำหรับความผิดเล็กน้อยครั้งแรก
- การปรับเงินในเกม: สำหรับความผิดที่สร้างความเสียหายแต่ไม่ร้ายแรง
- โทษใบแดง (ปลด Whitelist ชั่วคราว): สำหรับความผิดที่ส่งผลกระทบต่อผู้เล่นอื่นหรือเซิร์ฟเวอร์
โดยมีลำดับการลงโทษเพิ่มขึ้นตามจำนวนครั้งที่ทำผิด (1 วัน, 3 วัน, 7 วัน, ...)
- การแบนถาวร: สำหรับความผิดที่ร้ายแรงที่สุด เช่น การใช้โปรแกรมช่วยเล่น, การซื้อขายด้วยเงินจริง,
หรือการใช้บัคอย่างเจตนา
7.3. การดำเนินคดีทางกฎหมายในชีวิตจริงต่อผู้สร้างความเสียหายแก่เซิร์ฟเวอร์
เซิร์ฟเวอร์ Red Dawn ถือว่าทรัพย์สินดิจิทัล, ข้อมูล, บริการ และชื่อเสียง ทั้งหมดเป็นสมบัติที่มีมูลค่าสูงสุด การกระทำใดๆ ที่มีเจตนาทำลาย, เปลี่ยนแปลงแก้ไข, เข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือบ่อนทำลายภาพลักษณ์ ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอย่างชัดแจ้ง ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง:
- การเจาะระบบ (Hacking) หรือพยายามเข้าถึงข้อมูลส่วนหลัง (Back-end)
- การโจมตีเพื่อระงับการให้บริการ (Denial of Service - DoS/DDoS)
- การใช้ช่องโหว่ของระบบเพื่อสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรง
- การเผยแพร่ข้อมูลเท็จหรือบิดเบือนที่สร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของเซิร์ฟเวอร์
คำประกาศทางกฎหมาย: การกระทำดังกล่าวข้างต้น ถือเป็น ความผิดร้ายแรง ตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ ของประเทศไทย ซึ่งมีโทษทั้งจำคุกและปรับ
ทีมบริหารของ Red Dawn ขอประกาศให้ทราบว่า เราได้จัดเตรียม ทีมที่ปรึกษาทางกฎหมายที่เชี่ยวชาญ ไว้เพื่อรับมือกับการกระทำดังกล่าวโดยเฉพาะ หลักฐานทั้งหมดจะถูกรวบรวมและส่งมอบให้แก่ฝ่ายกฎหมายของเราเพื่อ ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และริเริ่มกระบวนการทางกฎหมายทั้งใน คดีอาญาและคดีแพ่ง เพื่อ เรียกร้องค่าเสียหายจนถึงที่สุด รวมถึงค่าเสียหายที่ประเมินค่าไม่ได้ต่อชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของเซิร์ฟเวอร์
การยอมความหรือประนีประนอม จะไม่ถูกนำมาพิจารณาในทุกกรณีโดยเด็ดขาด
7.4. การยื่นอุทธรณ์ต่อบทลงโทษ
แม้ว่าคำตัดสินของทีมงานจะถือเป็นที่สิ้นสุดในเบื้องต้น แต่ Red Dawn เปิดโอกาสให้ผู้เล่นที่เชื่อว่าตนไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือมีหลักฐานใหม่ที่สำคัญ สามารถยื่นเรื่องอุทธรณ์เพื่อขอให้พิจารณาใหม่ได้ ผ่านช่องทาง Discord Ticket โดยมีหลักเกณฑ์และขั้นตอนดังนี้:
- ระยะเวลาในการยื่น: สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ภายใน 48 ชั่วโมงหลังจากได้รับทราบคำตัดสิน
- ช่องทางการยื่น: เปิด Ticket ใน Discord และเลือก "ส่งคำร้อง"
- ข้อมูลที่ต้องระบุใน Ticket:
- ชื่อเรื่อง: ระบุว่า "อุทธรณ์โทษ - [ชื่อตัวละครของคุณ]"
- ชื่อตัวละคร : ชื่อนามสกุลตัวละครที่ใช้ในเกม
- วันที่เกิดเหตุและวันที่ตัดสิน : ระบุให้ชัดเจน
- บทลงโทษที่ได้รับ : เช่น แบน 3 วัน, ปรับเงิน $500
- เหตุผลในการอุทธรณ์ : อธิบายอย่างละเอียดว่าเหตุใดคุณจึงเชื่อว่าคำตัดสินไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นธรรม
- หลักฐานใหม่ : แนบคลิปวิดีโอหรือรูปภาพเพิ่มเติมที่ยังไม่เคยส่งให้ทีมงานพิจารณา พร้อมอธิบายว่าหลักฐานใหม่นี้สำคัญอย่างไร
- ข้อควรจำ : การยื่นอุทธรณ์จะได้รับการพิจารณาโดยทีมงานระดับสูง และคำตัดสินในชั้นอุทธรณ์จะถือเป็นที่สิ้นสุดโดยไม่มีข้อยกเว้น
บทที่ 8: แนวทางสำหรับคอนเทนต์ครีเอเตอร์
8.1. คำนิยามและขอบเขต
บทนี้ครอบคลุมผู้เล่นทุกคนที่ทำการเผยแพร่เนื้อหาเกี่ยวกับเซิร์ฟเวอร์ RED DAWN สู่สาธารณะ
ไม่ว่าจะเป็นการสตรีมสด (Live Stream), การบันทึกวิดีโอ (VOD), การทำคลิปสั้น (Shorts/Reels/TikTok)
หรือการโพสต์รูปภาพและเรื่องราวผ่านโซเชียลมีเดีย ในฐานะที่คุณคือหน้าต่างที่เปิดให้คนภายนอกได้เห็นโลกของเรา
คุณจึงมีบทบาทสำคัญในการเป็นภาพลักษณ์ของชุมชน
8.2. กฎพื้นฐานและความรับผิดชอบ
- ปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด:
คอนเทนต์ครีเอเตอร์ต้องมีความเข้าใจในกฎทุกข้อของเซิร์ฟเวอร์อย่างถ่องแท้
และต้องไม่สร้างหรือส่งเสริมคอนเทนต์ที่ละเมิดกฎเหล่านั้น
- เป็นแบบอย่างที่ดี: คุณคือทูตของเซิร์ฟเวอร์ โปรดแสดงออกถึงการเล่น Roleplay ที่มีคุณภาพ
ใช้ภาษาที่สุภาพ และส่งเสริมบรรยากาศการเล่นในเชิงบวก
- ปกป้องความเป็นส่วนตัว: ห้ามเผยแพร่ข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น IP Address ของเซิร์ฟเวอร์
หรือข้อมูลส่วนตัวของผู้เล่นคนอื่นโดยเด็ดขาด การกระทำใดๆ
ที่อาจนำไปสู่การคุกคามผู้เล่นอื่นนอกเกมถือเป็นความผิดร้ายแรง
8.3. แนวทางการสร้างคอนเทนต์
การป้องกัน Metagaming (MG):
ห้ามนำข้อมูลจากช่องแชทของสตรีม, คอมเมนต์, หรือการโดเนท
มาใช้ประโยชน์ในการเล่นโดยเด็ดขาด ตัวละครของคุณต้องไม่รับรู้ข้อมูลที่ผู้เล่นได้รับรู้จากผู้ชม
การรับมือ Stream Sniping:
หากคุณสงสัยว่ากำลังถูกผู้เล่นอื่นแอบดูสตรีมเพื่อหาตำแหน่งและก่อกวน
(Stream Sniping) ให้พยายามรวบรวมหลักฐาน เช่น คลิปวิดีโอที่แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมที่ผิดปกติของเขา
แล้วนำส่งให้ทีมงานตรวจสอบเป็นการภายใน
8.4. กิจกรรมและสิทธิประโยชน์สำหรับ Content Creator
เพื่อเป็นการสนับสนุนผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ ทางเซิร์ฟเวอร์ได้จัดกิจกรรมต่างๆ ให้เข้าร่วม
สำหรับสิทธิประโยชน์
รางวัล และยศพิเศษของแต่ละกิจกรรม ผู้เล่นสามารถตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดได้ในช่องทาง Discord
ที่ทีมงานได้กำหนดไว้
บทที่ 9: ระเบียบข้อบังคับสำหรับเจ้าหน้าที่ (Lawman Rules)
กฎข้อนี้ใช้สำหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกตำแหน่ง ได้แก่ Sheriff, Deputy Sheriff และตำแหน่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายหรือฝ่ายความมั่นคงอื่น ๆ ที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐ Red Dawn
9.1. การห้ามพกพาและใช้อาวุธราชการในเขตอันตราย
ข้อ 9.1.1. อาวุธราชการ หมายถึง
- อาวุธที่ได้รับจากคลังของรัฐ หรือได้รับจากสิทธิพิเศษตามตำแหน่งหน้าที่ เช่น ปืนลูกซองทางการ, ปืนคาบศิลา/ปืนยาวเฉพาะเจ้าหน้าที่, ปืนลูกโม่, หรือปืนใดๆ ที่ออกให้เฉพาะบทบาทราชการหรือการฝึกอบรมเท่านั้น
ข้อ 9.1.2. เขตอันตราย หมายถึง
- พื้นที่นอกเหนือการควบคุมของกฎหมาย หรือพื้นที่ที่รัฐไม่มีอำนาจเข้าถึงโดยตรง เช่น พื้นที่ดำ, เขตแก๊ง, ค่ายโจร, หรือพื้นที่นัดหมายที่มีความเสี่ยงในการปะทะอย่างชัดเจน
ข้อ 9.1.3. ข้อห้ามโดยเด็ดขาด
- ห้ามเจ้าหน้าที่นำอาวุธราชการติดตัวหรือใช้งานในพื้นที่เขตอันตรายทุกกรณี ไม่ว่าจะอยู่ในภารกิจสืบสวน, แฝงตัว, ปลอมตัว หรือเล่นบทบาทนอกเครื่องแบบใด ๆ ก็ตาม
ผู้ใดฝ่าฝืนข้อบังคับนี้ จะถูกลงโทษดังนี้:
- ถอดถอนจากตำแหน่งเจ้าหน้าที่ทันที
- บทลงโทษนอกบทบาท (OOC) จำคุกเป็นระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 160 นาที
- หากมีเจตนาใช้อาวุธในการก่ออาชญากรรม อาจถูกพิจารณาโทษแบน
9.2. ข้อบังคับเกี่ยวกับกฎ Value of Life (VOL) สำหรับเจ้าหน้าที่
ข้อ 9.2.1. หลักการของกฎ VOL
- เจ้าหน้าที่ต้องคำนึงถึง “คุณค่าของชีวิต” เป็นอันดับแรก แม้จะอยู่ในตำแหน่งที่มีอำนาจ แต่หากสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวยให้ตอบโต้หรือหลบหนีได้อย่างสมเหตุสมผล จะต้องยอมจำนนต่อสถานการณ์เพื่อรักษาความสมจริงของบทบาท
ข้อ 9.2.2. กรณีที่เจ้าหน้าที่สามารถไม่ปฏิบัติตาม VOL ได้
- เจ้าหน้าที่สามารถปฏิเสธการจำนนได้ เฉพาะเมื่อ: มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายเดียวกันร่วมสถานการณ์อย่างน้อย 2 คนขึ้นไป, มีอาวุธอยู่ในมือและอยู่ในสถานการณ์ที่ควบคุมได้ (เช่น มีที่กำบัง, อยู่ในที่สูง) หรือสถานการณ์ยังไม่ถึงจุดคุกคามถึงชีวิตอย่างชัดเจน
ข้อ 9.2.3. กรณีที่เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎ VOL
- ห้ามฝ่าฝืนกฎ VOL โดยเด็ดขาดในกรณีต่อไปนี้: จำนวนผู้คุกคามมีมากกว่าเจ้าหน้าที่แบบ 4 ต่อ 1 ขึ้นไป, ถูกจ่อปืนหรือล้อมรอบจนไม่มีทางหนี, ไม่มีอาวุธในมือเพื่อโต้กลับอย่างสมจริง และให้รวมถึงกรณีที่รู้อยู่แก่ใจว่ากฎของเซิร์ฟเวอร์ (เช่น กฎข้อ 6.11) อาจจะห้ามการกระทำของฝ่ายตรงข้าม (เช่น การปล้นเจ้าหน้าที่) ก็ตาม
ผู้ใดฝ่าฝืนหลักการ VOL จะถูกลงโทษเทียบเท่าผู้เล่นทั่วไป และอาจได้รับโทษรุนแรงกว่าตามดุลยพินิจของทีมงาน
9.3. การกระทำผิดในเขตอันตรายของเจ้าหน้าที่
ข้อ 9.3.1. นิยามการกระทำผิด
- หมายถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่กระทำการผิดกฎหมายในเขตอันตราย เช่น การปล้น, ฆ่า, ข่มขู่, รีดไถ, ทำร้ายบุคคลนอกเขตควบคุมของรัฐ หรือร่วมมือกับอาชญากรในทางลับ
ข้อ 9.3.2. ข้อบังคับและบทลงโทษ
-
บทลงโทษที่ต้องปฏิบัติทันที: หากเจ้าหน้าที่กระทำผิดกฎหมายในพื้นที่ดังกล่าว ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงเวลาปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ก็ตาม จะต้องปฏิบัติตามข้อบังคับ “กฎข้อ 6.11” ทุกประการทันที ได้แก่:
- ห้ามออกจากเกมเป็นเวลา 2 ชั่วโมงเต็ม นับจากเวลาที่เกิดเหตุ
- ห้ามเปลี่ยนชุด/แต่งกายทุกกรณี เป็นเวลา 48 ชั่วโมงเต็ม (เวลาจริง)
- ห้ามกระทำการใดที่เป็นการหลีกเลี่ยง Roleplay
-
เงื่อนไขการพ้นจากสถานะ: การจะถูกถอดถอนจากตำแหน่งและ “พ้นจากสถานะเจ้าหน้าที่” หรือไม่นั้น จะขึ้นอยู่กับผลการสืบสวนภายในเกม (In-Character) เท่านั้น หากถูกจับกุมและพิสูจน์ความผิดได้ จึงจะถูกลงโทษถอดถอนตามประมวลกฎหมาย
ข้อ 9.3.3. การเล่นบทบาทเจ้าหน้าที่ทุจริต (เจ้าหน้าที่ดำ) ในเขตอันตราย
- การที่เจ้าหน้าที่กระทำผิดในเขตอันตราย (สวมบทบาทเจ้าหน้าที่ดำ) ไม่ได้หมายความว่าเป็นการผิดกฎของเซิร์ฟเวอร์ (OOC) ผู้เล่นสามารถเล่นบทบาทดังกล่าวได้
- อย่างไรก็ตาม การกระทำนั้นถือเป็นการละเมิดบทบาทหน้าที่อย่างร้ายแรง และถึงแม้จะเกิดขึ้นนอกเขตอำนาจของกฎหมายเมือง แต่หากมีข้อมูลหรือหลักฐานรั่วไหลกลับเข้าไปในเขตเมือง อาจนำไปสู่การสืบสวนและลงโทษทางวินัยภายในหน่วยงานได้ (In-Character)
หากฝ่าฝืนข้อบังคับในกฎข้อ 6.11. จะถือว่าหลบหนีการลงโทษ และจะถูกพิจารณาโทษขั้นสูงสุด เช่น การถอดยศถาวร, แบนจากการรับบทเจ้าหน้าที่ในอนาคต หรือแบนตัวละคร
บทที่ 10: กฎการปฏิบัติต่อหน่วยงานแพทย์ (Rules for Interacting with the Medical Department)
ในโลกที่โหดร้ายของดินแดนตะวันตก หน่วยงานแพทย์คือเสาหลักแห่งมนุษยธรรมและเป็นเส้นแบ่งบางๆ ระหว่างความเป็นและความตาย พวกเขาคือผู้ที่อุทิศตนเพื่อช่วยเหลือทุกชีวิตโดยปราศจากอคติและไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด กฎในบทนี้จึงถูกสร้างขึ้นไม่ใช่เพียงเพื่อปกป้องตัวบุคคล แต่เพื่อปกป้อง "หลักการ" ของการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ชุมชนของเราดำรงอยู่ได้
10.1. สถานะความเป็นกลางและการคุ้มครองบุคลากร
เจ้าหน้าที่แพทย์ทุกคนถือเป็นบุคลากรที่เป็นกลางและห้ามมีส่วนร่วมในการต่อสู้ (Non-Combatant) โดยสมบูรณ์ สถานะนี้มอบการคุ้มครองแก่พวกเขา แต่ก็มาพร้อมกับความรับผิดชอบในการวางตัวเป็นกลางอย่างเคร่งครัด การละเมิดต่อบุคลากรเหล่านี้ถือเป็นการละเมิดต่อสัญญาประชาคมของผู้เล่นทุกคนในเซิร์ฟเวอร์
-
ข้อ 10.1.1. ห้ามการใช้ความรุนแรงโดยเด็ดขาด
ห้ามทำร้ายร่างกาย, โจมตี, หรือกระทำการใดๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิตของเจ้าหน้าที่แพทย์ ไม่ว่าจะด้วยอาวุธ, มือเปล่า, หรือวิธีการอื่นใดก็ตาม การโจมตีแพทย์ไม่ต่างอะไรกับการทำลายเครื่องมือชิ้นสุดท้ายที่สามารถช่วยชีวิตคุณหรือเพื่อนของคุณได้
-
ข้อ 10.1.2. ห้ามการคุกคามและการลิดรอนเสรีภาพ
ห้ามทำการปล้น, ข่มขู่, รีดไถ, ลักพาตัว, หรือบังคับให้เจ้าหน้าที่แพทย์กระทำการใดๆ นอกเหนือจากการรักษาพยาบาลตามปกติโดยเด็ดขาด การกระทำเหล่านี้เป็นการขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่และลดทอนความสามารถในการช่วยเหลือผู้เล่นคนอื่นที่กำลังรอคอยความช่วยเหลืออย่างสิ้นหวัง
10.2. การเคารพต่อพื้นที่ทำการและเขตปลอดภัย
โรงหมอ, คลินิก, และพื้นที่โดยรอบ ถือเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่อุทิศให้กับการรักษาพยาบาล ต้องเป็นสถานที่ที่ทุกคน แม้แต่ศัตรูคู่อาฆาต ก็สามารถเข้ามาขอความช่วยเหลือได้โดยไม่ต้องหวาดระแวงว่าจะถูกทำร้าย
-
ข้อ 10.2.1. สถานะเขตปลอดความขัดแย้ง (Conflict-Free Zone)
ห้ามเริ่ม, ดำเนินต่อ, หรือลากจูงเรื่องราว (สตอรี่) ที่มีความขัดแย้งทุกประเภทเข้ามาในเขตพื้นที่ของหน่วยงานแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นการไล่ล่า, การดวลปืน, การทะเลาะวิวาท, หรือแม้แต่การดักรอเพื่อสร้างสถานการณ์เผชิญหน้า
บทลงโทษขั้นสูงสุด: เจตนารมณ์ของกฎบทนี้คือการปกป้องระบบสาธารณสุขซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของเซิร์ฟเวอร์ การละเมิดกฎนี้จึงไม่ใช่แค่การเล่นนอกบทบาท (Fail-RP) แต่เป็นการกระทำที่บ่อนทำลายประสบการณ์การเล่นของผู้เล่นส่วนรวมอย่างร้ายแรง
- ผู้ใดฝ่าฝืนข้อบังคับใดๆ ในบทนี้ จะถูกลงโทษ ปลดไวท์ลิสต์ถาวร (Permanent Whitelist Removal) ซึ่งเป็นบทลงโทษขั้นสูงสุดสถานเดียว โดยไม่มีการตักเตือนล่วงหน้า
บทที่ 11: การสร้างตัวละครและการยอมรับบทบาท
ในการสร้างตัวละคร ไม่ว่าผู้เล่นจะเลือกสร้างตัวละครเป็นคนขาว คนดำ เอเชีย หรือชนเผ่าพื้นเมือง ผู้เล่นจะต้องยอมรับและเล่นตามบทบาทที่เกี่ยวข้องกับเชื้อชาติและพื้นเพนั้นๆ เพื่อรักษาความสมจริงและความลึกของเรื่องราวในโลกของ Red Dawn
ทำไมถึงมีกฎข้อนี้? (The 'Why')
กฎข้อนี้เป็นหัวใจสำคัญของการเล่น Roleplay ในระดับสูง โดยมีเจตนาเพื่อสร้างโลกที่สมจริง มีมิติ และน่าจดจำสำหรับผู้เล่นทุกคน การ "ยอมรับและเล่นตามบทบาท" ไม่ใช่การจำกัด แต่เป็นการส่งเสริมให้การเล่นมี "ความลึก" ดังนี้:
- เพื่อสร้างความสมจริง (Immersion): ในโลกความเป็นจริง เชื้อชาติและพื้นเพมีผลต่อการดำเนินชีวิต มุมมอง และวิธีที่สังคมปฏิบัติต่อเรา การนำองค์ประกอบนี้มาใช้ทำให้โลกของ Red Dawn รู้สึก 'มีชีวิต' และจับต้องได้
- เพื่อสร้างมิติให้ตัวละคร (Character Depth): ตัวละครไม่ใช่แค่ 'สกิน' แต่คือบุคคลที่มีที่มา การผูกบทบาทเข้ากับภูมิหลังจะกระตุ้นให้ผู้เล่นสร้างตัวละครที่มีความลึกซึ้งและน่าสนใจ
- เพื่อขับเคลื่อนเรื่องราว (Story Driver): ความแตกต่างทางวัฒนธรรมสามารถสร้างพล็อตเรื่องราวที่น่าสนใจได้เองโดยอัตโนมัติ เช่น การเกิดอคติ, การสร้างพันธมิตร, หรือความขัดแย้งทางความคิด ซึ่งเป็นวัตถุดิบชั้นดีสำหรับการ Roleplay
แล้วต้องเล่นอย่างไร? (The 'How-To')
การนำไปปฏิบัติ ไม่ได้หมายความว่าต้องเล่นตามภาพเหมารวม (Stereotype) แต่คือการทำความเข้าใจและนำมาปรับใช้อย่างมีมิติ:
-
การสร้างพื้นเพ (Backstory): เมื่อเลือกเชื้อชาติ ให้ลองตอบคำถาม เช่น ตัวละครเป็นผู้อพยพรุ่นแรกหรือรุ่นที่สอง? เติบโตมาในสภาพแวดล้อมแบบไหน? ครอบครัวมีค่านิยมอย่างไร? ประสบการณ์เหล่านี้หล่อหลอมให้เขามีทักษะหรือทัศนคติอย่างไรในปัจจุบัน
-
การแสดงออก (Actions & Dialogue): ให้พื้นเพสะท้อนออกมาผ่านการเล่น เช่น อาจมีสำเนียงเฉพาะ (อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ล้อเลียน), มีค่านิยมเรื่องครอบครัวหรือเกียรติยศเป็นพิเศษ, หรือมีปฏิกิริยาต่อสถานการณ์บางอย่างแตกต่างจากคนอื่น
-
ปฏิสัมพันธ์กับโลก (Interaction): ยอมรับว่าตัวละครอื่นอาจมี 'อคติในบทบาท' (In-Character Prejudice) ต่อเชื้อชาติของเรา และใช้มันเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนเรื่องราว ตอบโต้ตามนิสัยตัวละครของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการเพิกเฉย, โกรธ, หรือพยายามพิสูจน์ตัวเอง
ข้อควรระวัง: สิ่งที่ไม่ควรทำ
เพื่อรักษาบรรยากาศการเล่นที่ดีและให้เกียรติผู้เล่นทุกคน โปรดหลีกเลี่ยงพฤติกรรมต่อไปนี้โดยเด็ดขาด:
- อย่าเล่นเป็นภาพเหมารวม (Stereotype): เช่น คนเอเชียทุกคนต้องเก่งกังฟู, คนดำทุกคนต้องเป็นอาชญากร การกระทำเช่นนี้ทำให้ตัวละครแบนและอาจสร้างความไม่พอใจให้ผู้เล่นอื่น
- อย่าล้อเลียน (Caricature): ห้ามแสดงบทบาทในลักษณะที่ดูถูกหรือล้อเลียนเชื้อชาตินั้นๆ การแสดงออกที่เกินจริงเพื่อความตลกขบขันในประเด็นอ่อนไหวนี้ถือเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง
- แยกแยะ IC และ OOC: ต้องจำไว้เสมอว่าความขัดแย้งทางเชื้อชาติ 'ในเกม' เป็นเพียงบทบาทสมมติ ห้ามใช้เป็นข้ออ้างในการดูถูกหรือโจมตีผู้เล่นคนอื่น 'นอกเกม' (Out-of-Character) โดยเด็ดขาด
บทที่ 12: กฎข้อบังคับและแนวทางปฏิบัติสำหรับผู้เล่นบทบาทชนพื้นเมือง
เพื่อสร้างมิติและความลึกซึ้งให้กับการเล่นบทบาทสมมติ (Roleplay) ของกลุ่มชนพื้นเมือง และเพื่อรักษาความสมดุลภายในเซิร์ฟเวอร์ จึงได้มีการกำหนดกฎและแนวทางปฏิบัติสำหรับผู้ที่เลือกสวมบทบาทนี้โดยเฉพาะขึ้นมา ขอให้ผู้เล่นทุกคนศึกษาและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
12.1. อัตลักษณ์และการสร้างตัวละคร
-
การสร้างลักษณะทางกายภาพ: ในการสร้างตัวละคร ผู้เล่นพึงทำความเข้าใจว่าชนพื้นเมือง (Native American) ไม่ใช่บุคคลผิวสี (Black/African descent) แต่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีรากฐานและเชื้อสายสืบเนื่องมาจากชาวเอเชียที่อพยพข้ามทวีปมาในยุคโบราณ ดังนั้น การสร้างตัวละครจึงควรมีลักษณะทางกายภาพที่สะท้อนถึงรากฐานดังกล่าวให้สมจริงที่สุด โดยมีแนวทางดังนี้
- โทนสีผิว: ควรอยู่ในช่วงผิวสองสี, ผิวสีน้ำผึ้ง, ไปจนถึงสีแทน หรือสีทองแดง จะไม่ใช่โทนผิวขาวจัดแบบชาวยุโรป หรือผิวคล้ำเข้มแบบชาวแอฟริกัน
- สีของดวงตา: ควรเป็นสีเข้มเป็นหลัก โดยส่วนใหญ่คือสีน้ำตาล, สีน้ำตาลเข้ม ไปจนถึงเกือบดำ
- สีผม: ควรเป็นสีดำหรือสีน้ำตาลเข้มสนิท
-
การลงทะเบียนที่อยู่อาศัย: ตัวละครชนพื้นเมืองทุกคน จะต้องลงทะเบียนที่อยู่อาศัยในหนังสือประชาชน ณ เขตสงวนวาปิติ (Wapiti Reservation) เท่านั้น และต้องพำนักอาศัยอยู่ในเขตสงวนเป็นหลัก
-
การแต่งกายในยามสงคราม: เมื่อดำเนินเรื่องราวที่สำคัญ หรืออยู่ในสถานการณ์การปะทะที่เกี่ยวข้องกับเกียรติภูมิของเผ่า สมาชิกจะต้องสวมใส่เครื่องแต่งกายที่บ่งบอกถึงอัตลักษณ์ของชนพื้นเมือง เพื่อให้ง่ายต่อการจำแนกและส่งเสริมบรรยากาศการเล่น
-
การแต่งกายในยามปกติ: โดยพื้นฐานแล้วไม่มีการจำกัดเรื่องการแต่งกาย ผู้เล่นสามารถเลือกเสื้อผ้าให้สอดคล้องกับเรื่องราวและบทบาทของตัวละครได้อย่างอิสระ ทั้งนี้ เพื่อรักษาบรรยากาศโดยรวม ขอความร่วมมือให้การแต่งกายยังคงอยู่ในขอบเขตที่เหมาะสมกับยุคสมัยและวิถีชีวิตของชนพื้นเมือง เช่น สามารถสวมใส่เสื้อผ้าของคนต่างถิ่นเมื่อต้องเข้าเมืองเพื่อทำการค้า หรือผสมผสานเครื่องแต่งกายตามเรื่องราวได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการแต่งกายที่หรูหราหรือล้ำสมัยเกินไปอย่างไม่มีเหตุผลรองรับ เช่น การสวมชุดสูทเต็มยศในเขตสงวน เป็นต้น
12.2. เขตสงวนวาปิติและพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์
เขตสงวนวาปิติถือเป็นแผ่นดินแม่และเป็นเขตปกครองตนเองของชนพื้นเมืองโดยสมบูรณ์ บุคคลภายนอกที่ย่างกรายเข้ามาต้องเคารพกฎและธรรมเนียมของพื้นที่
- สถานะเขตยกเว้นการคุ้มครอง: บุคคลภายนอกที่มิใช่ชนพื้นเมืองที่เดินทางเข้าไปในเขตสงวน จะต้องยอมรับความเสี่ยงด้วยตนเอง หากถูกโจมตี ขับไล่ หรือเกิดความขัดแย้งกับชนพื้นเมืองในพื้นที่ การกระทำดังกล่าวของชนพื้นเมืองเพื่อปกป้องดินแดน **จะไม่ถูกพิจารณาว่าเป็นการผิดกฎ DM (Deathmatch)**
- พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ: ชนพื้นเมืองสามารถกำหนด "พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์" นอกเขตสงวนได้ (ต้องแจ้งทีมงานเพื่อขออนุมัติและปักหมุด) การลบหลู่หรือทำลายพื้นที่ดังกล่าวโดยบุคคลภายนอก จะถือเป็นเหตุอันชอบธรรมให้ชนพื้นเมืองเปิดการปะทะได้
12.3. เศรษฐกิจและวิถีชีวิต
- อิสระในการเลือกวิถีชีวิต: ผู้เล่นสามารถกำหนดทิศทางและวิถีชีวิตของตัวละครได้อย่างอิสระตามพื้นเพ นิสัย และเรื่องราวที่สร้างขึ้น ไม่ว่าจะเป็นนายพรานผู้รักสันโดษ, พ่อค้าเร่, นักรบผู้ปกป้องเผ่า, หรือเส้นทางอื่นๆ ที่สมเหตุสมผลตามบทบาท
- การค้า: ตัวละครสามารถเลือกประกอบอาชีพค้าขายสินค้าที่มาจากธรรมชาติ เช่น หนังสัตว์, สมุนไพร หรือของทำมือต่างๆ กับผู้อื่นได้ตามปกติ
12.4. การปะทะและเหตุแห่งสงคราม (Casus Belli)
การเปิดฉากความขัดแย้งกับคนนอกเผ่าจะต้องมีเหตุผลอันชอบธรรมรองรับเสมอ การกระทำโดยไร้เหตุผลจะถูกลงโทษตามกฎปกติ เหตุอันชอบธรรม (Casus Belli) ประกอบด้วย:
- การป้องกันตนเองและดินแดนเขตสงวนจากการบุกรุก
- การตอบโต้ต่อการถูกโจมตีหรือลบหลู่ศักดิ์ศรีของคนในเผ่า
- การล้างแค้นให้กับการทำลายหรือลบหลู่พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับการยอมรับ
- เมื่อเกิดการปะทะตามเหตุอันชอบธรรมแล้ว สามารถใช้อาวุธได้ทุกชนิดเพื่อปกป้องเกียรติยศและดินแดนของตนอย่างเต็มความสามารถ
12.5. การเป็นผู้นำและโครงสร้างองค์กร
- ผู้นำเผ่า (Chief): กลุ่มผู้เล่นชนพื้นเมืองจะต้องมีการแต่งตั้งผู้นำเผ่าที่ชัดเจน และแจ้งชื่อให้ทีมงานเซิร์ฟเวอร์รับทราบ การตัดสินใจที่สำคัญของเผ่าจะต้องมาจากผู้นำ
- ความเป็นเอกภาพ: ชนพื้นเมืองไม่สามารถสร้างพันธมิตรกับคาราวานหรือครอบครัวอื่นในลักษณะของการร่วมมือกันเพื่อโจมตี แต่สามารถทำการค้าขายหรือมีปฏิสัมพันธ์เชิงเรื่องราวได้
บทที่ 13: การใช้เครื่องมือแสดงบทบาท (/me และ /do)
ในโลกของ Red Dawn การสื่อสารไม่ได้จำกัดอยู่แค่คำพูดผ่านไมโครโฟน แต่ยังรวมถึงการแสดงออกทางท่าทาง อารมณ์ และการบรรยายสภาพแวดล้อม ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้เรื่องราวมีมิติและความลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น คำสั่ง /me และ /do คือเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้คุณสามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้ โปรดทำความเข้าใจวิธีการใช้งานที่ถูกต้องเพื่อยกระดับการเล่น Roleplay ของคุณ
แนวทางและมารยาทในการใช้งาน
-
นี่คือเครื่องมือเสริม ไม่ใช่ข้อบังคับ: การใช้คำสั่งเหล่านี้เพื่อเพิ่มความลึกซึ้งในการเล่นเท่านั้น แต่ไม่ได้บังคับผู้เล่นทุกคนต้องใช้ หากคุณถนัดการใช้เสียง (Voice RP) และท่าทางในเกมมากกว่า ก็สามารถทำได้เต็มที่
-
เคารพสไตล์การเล่นของผู้อื่น: หากคุณใช้ /me หรือ /do กับผู้เล่นคนอื่น แต่เขาไม่ได้ใช้คำสั่งเหล่านี้ตอบกลับ โปรดอย่ากดดันหรือบังคับให้เขาต้องใช้ ควรตอบกลับเป็นคำพูด เพราะแต่ละคนมีสไตล์การเล่นที่แตกต่างกัน
-
วิธีรับมือ (เมื่อคุณไม่ต้องการใช้): หากมีคนใช้คำสั่งเหล่านี้กับคุณ แต่คุณไม่สะดวกที่จะใช้ตอบกลับ ก็ไม่เป็นไรครับ ให้คุณเล่น Roleplay ต่อไปตามปกติ โดยใช้การพูดโต้ตอบ (Voice RP) หรือแสดงท่าทางในเกมตามสถานการณ์นั้นๆ แทนได้เลย ไม่จำเป็นต้องใช้คำสั่งเดียวกันตอบกลับเสมอไป
-
สถานการณ์ที่ไม่ควรใช้: ห้ามใช้คำสั่ง /me และ /do ในสถานการณ์ที่ต้องการการตอบสนองอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเหตุการณ์ปะทะหรือยิงกัน การหยุดพิมพ์เพื่อบรรยายอาจทำให้เสียจังหวะและทำลายบรรยากาศความตึงเครียดของสถานการณ์ได้ ควรใช้การสื่อสารด้วยเสียง (Voice RP) เป็นหลัก
ข้อสำคัญ: เซิร์ฟเวอร์ RED DAWN จะไม่มีคำสั่ง /ooc (Out of Character) ในเกม การสื่อสาร OOC ทั้งหมดจะต้องทำผ่าน Discord เท่านั้น เพื่อรักษาบรรยากาศการสวมบทบาท (Immersion) ให้สมบูรณ์ที่สุด
13.1. การใช้ /me: บรรยายการกระทำและอารมณ์
/me เปรียบเสมือน "บทบรรยายการแสดง" ของตัวละครคุณ ใช้สำหรับบรรยาย "การกระทำ", "ท่าทาง", หรือ "การแสดงออกทางสีหน้าและอารมณ์" ที่อนิเมชันในเกมไม่สามารถแสดงผลได้ การใช้ /me ที่ดีจะช่วยเพิ่มบุคลิกและมิติให้กับตัวละครของคุณ ทำให้ผู้เล่นคนอื่นเข้าใจการกระทำและความรู้สึกของตัวละครคุณได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น โดยจะแสดงผลในรูปแบบบุคคลที่สาม (Third-person)
หลักการใช้งาน /me
- มุ่งเน้นที่การกระทำของคุณ: /me ใช้เพื่ออธิบายสิ่งที่ตัวละคร "ของคุณ" กำลังทำหรือแสดงออกเท่านั้น คุณคือนักแสดงและผู้กำกับของตัวละครคุณเอง
- หลีกเลี่ยง Powergaming: ห้ามใช้ /me เพื่อบังคับการกระทำหรือผลลัพธ์ต่อผู้เล่นคนอื่น ควรใช้ในลักษณะของการ "พยายาม" เพื่อให้อีกฝ่ายมีโอกาสตอบสนอง
- แสดงการกระทำ ไม่ใช่ความคิด: สิ่งที่บรรยายใน /me ควรเป็นสิ่งที่คนอื่นสามารถ "มองเห็น" ได้ ห้ามใช้บรรยายความคิดในใจซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีใครสามารถรับรู้ได้
- ไม่ใช่เครื่องมือแทนคำพูด: การสนทนาควรใช้ไมโครโฟนเป็นหลัก /me ใช้เพื่อเสริมการกระทำที่ไม่สามารถพูดหรือแสดงท่าทางในเกมได้
ตัวอย่างที่ถูก (Correct)
- แสดงการกระทำกับสิ่งของ: พิมพ์
/me เอื้อมมือไปหยิบขวดเหล้าบนเคาน์เตอร์ขึ้นมาพินิจดูอย่างช้าๆ
ผลลัพธ์: John Marston เอื้อมมือไปหยิบขวดเหล้าบนเคาน์เตอร์ขึ้นมาพินิจดูอย่างช้าๆ
- แสดงอารมณ์ผ่านสีหน้า: พิมพ์
/me หรี่ตามองคู่สนทนาด้วยความไม่ไว้วางใจ ก่อนจะแสยะยิ้มที่มุมปาก
ผลลัพธ์: Jane Doe หรี่ตามองคู่สนทนาด้วยความไม่ไว้วางใจ ก่อนจะแสยะยิ้มที่มุมปาก
- แสดงปฏิกิริยาทางร่างกาย: พิมพ์
/me มีเหงื่อซึมออกมาตามไรผม สีหน้าดูซีดเผือดอย่างเห็นได้ชัด
ผลลัพธ์: Billy The Kid มีเหงื่อซึมออกมาตามไรผม สีหน้าดูซีดเผือดอย่างเห็นได้ชัด
- การกระทำที่มีต่อผู้อื่น (อย่างถูกต้อง): พิมพ์
/me พยายามยื่นมือออกไปเพื่อจะจับไหล่ของอีกฝ่ายไว้
ผลลัพธ์: John Marston พยายามยื่นมือออกไปเพื่อจะจับไหล่ของอีกฝ่ายไว้ (เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายเล่นบทตอบสนองว่าจะยอมให้จับหรือไม่)
ตัวอย่างที่ผิด (Incorrect)
/me คิดว่านายอำเภอคนนี้น่าสงสัยจริงๆ
(ผิด: บรรยายความคิดในใจ ควรแสดงออกเป็นการกระทำ เช่น /me ลูบคางพลางมองนายอำเภอด้วยสายตาจับผิด
)
/me ต่อยหน้าคู่สนทนาจนสลบ
(ผิด: เป็นการบังคับผลลัพธ์ หรือ Powergaming ควรใช้ว่า /me พยายามเหวี่ยงหมัดใส่ใบหน้าของคู่สนทนา
)
/me พูดว่า "ส่งเงินมาให้หมด"
(ผิด: ใช้แทนคำพูด ควรพูดผ่านไมค์)
13.2. การใช้ /do: บรรยายสภาพแวดล้อมและสถานะ
/do เปรียบเสมือน "บทบรรยายฉาก" ที่คุณสามารถเพิ่มเข้าไปในเรื่องราวได้ ใช้สำหรับบรรยาย "สภาพของวัตถุ", "รายละเอียดของสภาพแวดล้อม", หรือ "สถานะของตัวละคร" ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า การใช้ /do คือการสร้าง "ข้อเท็จจริง" ให้เกิดขึ้นในฉากนั้นๆ เพื่อให้ผู้เล่นคนอื่นสามารถรับรู้และนำข้อมูลนั้นไปใช้ในการเล่น Roleplay ต่อได้
หลักการใช้งาน /do
- ต้องเป็นข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง: สิ่งที่บรรยายใน /do ควรถือเป็นความจริงที่เกิดขึ้นในสถานการณ์นั้นๆ และต้องสมเหตุสมผล
- บรรยายสถานะ ไม่ใช่การกระทำ: /do ใช้อธิบายว่า "สิ่งนั้นเป็นอย่างไร" ไม่ใช่ "กำลังทำอะไร" (การกระทำให้ใช้ /me)
- เครื่องมือสร้างเรื่องราวร่วมกัน: /do เป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมในการถาม-ตอบ เพื่อให้เรื่องราวดำเนินไปอย่างราบรื่นโดยไม่เกิด Powergaming
ตัวอย่างที่ถูก (Correct)
- บรรยายสภาพวัตถุ: พิมพ์
/do ปืนลูกโม่บนโต๊ะมีรอยสลักเป็นรูปหัวกะโหลกที่ด้ามจับ และดูเหมือนจะได้รับการดูแลอย่างดี
ผลลัพธ์: ปืนลูกโม่บนโต๊ะมีรอยสลักเป็นรูปหัวกะโหลกที่ด้ามจับ และดูเหมือนจะได้รับการดูแลอย่างดี (John Marston)
- บรรยายสภาพตัวละคร (หลังถูกยิง): พิมพ์
/do บาดแผลที่หัวไหล่ดูสาหัส มีเลือดไหลซึมออกมาเปรอะเสื้อจนเป็นวงกว้าง
ผลลัพธ์: บาดแผลที่หัวไหล่ดูสาหัส มีเลือดไหลซึมออกมาเปรอะเสื้อจนเป็นวงกว้าง (Jane Doe)
- บรรยายสภาพแวดล้อม: พิมพ์
/do มีกลิ่นอับชื้นและกลิ่นดินปืนจางๆ ลอยอยู่ในอากาศภายในกระท่อม
ผลลัพธ์: มีกลิ่นอับชื้นและกลิ่นดินปืนจางๆ ลอยอยู่ในอากาศภายในกระท่อม (Billy The Kid)
การใช้ /do ในการถาม-ตอบ (ขั้นสูง)
นี่คือวิธีที่ดีที่สุดในการใช้ /do เพื่อสร้าง Roleplay ร่วมกันโดยไม่บังคับผลลัพธ์
- ตัวอย่างสถานการณ์: ตรวจสอบผู้ต้องสงสัย
- ผู้เล่น A (นายอำเภอ):
/me ค่อยๆ ตบเบาๆ ไปตามกระเป๋าเสื้อและกางเกงของผู้ต้องสงสัยเพื่อค้นหาอาวุธ
- ผู้เล่น A (นายอำเภอ):
/do จะรู้สึกถึงวัตถุแข็งๆ หรือสิ่งผิดปกติบ้างไหม?
(นี่คือการถามเพื่อให้เจ้าของตัวละครตอบ)
- ผู้เล่น B (ผู้ต้องสงสัย):
/do เมื่อตบไปที่กระเป๋าเสื้อด้านใน จะรู้สึกถึงวัตถุแข็งมีด้ามจับคล้ายกับมีด
(นี่คือการให้ข้อมูลตามจริง)
ตัวอย่างที่ผิด (Incorrect)
/do รู้สึกกลัวจนตัวสั่น
(ผิด: เป็นการบรรยายความรู้สึก ควรใช้ /me เช่น /me ตัวสั่นเล็กน้อย
)
/do หยิบปืนขึ้นมา
(ผิด: เป็นการกระทำ ควรใช้ /me)
/do กระเป๋าหนังใบนี้มีพลังวิเศษซ่อนอยู่
(ผิด: สร้างข้อมูลที่ไม่สมจริงและเกินกว่าเหตุในโลกของเกม)
/do จะเห็นว่าชายคนนั้นมีท่าทีหวาดกลัว
(ผิด: เป็นการบังคับความรู้สึกของตัวละครอื่น ควรใช้ /me สังเกตท่าทีของเขาแทน)
13.3. สรุปง่ายๆ สำหรับคาวบอยมือใหม่
ลองจินตนาการว่าเรากำลังเล่นเป็นตัวละครในหนังกันอยู่...
/me คือการบอกว่าตัวละครของเรากำลัง "แสดงท่าทาง" อะไรอยู่ ที่คนอื่นมองเห็นได้ เช่น /me ยิ้มมุมปาก
หรือ /me ทำหน้าเบื่อ
มันคือการแสดงละครใบ้ผ่านตัวหนังสือนั่นเอง!
/do คือการอธิบาย "ความจริง" ของสิ่งของหรือสถานการณ์ให้เพื่อนๆ รู้ เช่น /do ในกระเป๋าไม่มีเงินเลย
หรือ /do ปืนกระบอกนี้ดูใหม่เอี่ยม
มันคือการช่วยกันสร้างฉากให้เรื่องราวของเราน่าสนใจขึ้น
จำง่ายๆ:
/me = การแสดง
/do = คำอธิบาย
ใช้สองอย่างนี้เพื่อช่วยให้การเล่นสนุกเหมือนเราได้สร้างหนังเรื่องหนึ่งไปด้วยกัน!
บทที่ 14: กฎเขตสงคราม (War Zone Rules)
14.1 เจตนารมณ์และคำนิยาม
War Zone เป็นกิจกรรมพิเศษที่จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้ผู้เล่นได้มีพื้นที่สำหรับผ่อนคลายความตึงเครียดจากการเล่น Roleplay หลัก และได้สนุกสนานไปกับการปะทะกันอย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลถึงผลกระทบที่จะตามมาในเนื้อเรื่อง (In-Character) กิจกรรมนี้ถือเป็นการ "พัก" จากการสวมบทบาทอย่างสิ้นเชิง และผู้เข้าร่วมทุกคนจะต้องเข้าใจและยอมรับในหลักการนี้ก่อนเข้าร่วม
หลักการสำคัญที่สุด: กิจกรรม War Zone ถือเป็นเรื่องนอกบทบาท (Out of Character - OOC) โดยสมบูรณ์ การเข้าร่วมหมายถึง "ผู้เล่น" ได้ให้ความยินยอมที่จะเข้ามาต่อสู้เพื่อความสนุก ไม่ใช่ "ตัวละคร" ที่เข้ามาต่อสู้ตามเนื้อเรื่อง
14.2 หลักการ "สิ่งที่เกิดขึ้นในโซน, จบลงในโซน"
นี่คือกฎเหล็กของ War Zone เมื่อกิจกรรมสิ้นสุดลง ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะต้องถูกลืมโดยสมบูรณ์ และห้ามนำไปส่งผลกระทบต่อการเล่น Roleplay ปกติโดยเด็ดขาด การกระทำดังต่อไปนี้ถือเป็นการละเมิดกฎอย่างร้ายแรง:
-
ห้ามนำไปสร้างเป็นเรื่องราวต่อ: ห้ามมิให้นำความขัดแย้ง, ความแค้นส่วนตัว, หรือเหตุการณ์ใดๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างกิจกรรม (เช่น ใครยิงใคร, ใครชนะหรือแพ้) ไปพูดถึงหรือเล่นเป็นเรื่องราวต่อด้านนอกเขต War Zone โดยเด็ดขาด
-
ห้ามการแก้แค้น (Revenge Killing): เมื่อคุณออกจาก War Zone และกลับเข้าสู่การเล่นปกติ คุณจะต้องไม่จดจำว่าใครเป็นคนฆ่าคุณในกิจกรรม และห้ามตามไปแก้แค้นในโลก Roleplay ปกติ
-
การสื่อสาร: การพูดคุยภายใน War Zone ควรเป็นไปเพื่อความสนุกสนานในกิจกรรมเท่านั้น ห้ามใช้คำพูดในลักษณะข่มขู่ที่จะนำเรื่องราวไปเล่นต่อข้างนอก เช่น "มึงจำไว้เลยนะ เดี๋ยวออกไปกูเอาคืนแน่"
14.3 กฎการปะทะและกติกาภายในโซน
-
การรวมกลุ่ม: สามารถรวมกลุ่มเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมได้สูงสุดไม่เกิน 5 คนต่อหนึ่งกลุ่ม และห้ามการสร้างพันธมิตร (Alliance) ระหว่างกลุ่มโดยเด็ดขาด
-
การคืนสู่สนามรบ: ผู้เล่นที่เสียชีวิตใน War Zone สามารถเกิดและกลับเข้ามาร่วมกิจกรรมต่อได้เรื่อยๆ จนกว่ากิจกรรมจะสิ้นสุด โดยไม่ต้องปฏิบัติตามกฎ New Life Rule
-
ห้ามปล้นหรือเก็บของ: ห้ามปล้นหรือเก็บไอเทมจากศพของผู้เล่นอื่นในเขต War Zone โดยเด็ดขาด เพื่อให้ทุกคนได้ต่อสู้อย่างเท่าเทียมและไม่ต้องกังวลเรื่องการสูญเสียทรัพย์สิน
-
กติกาเฉพาะกิจ: รูปแบบของกิจกรรมอาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละครั้ง เช่น การแบ่งทีม, การยึดพื้นที่ หรือการนับคะแนน ขอให้ผู้เล่นทุกคนปฏิบัติตามกติกาที่ทีมงานประกาศก่อนเริ่มกิจกรรมอย่างเคร่งครัด
-
การสื่อสารและพฤติกรรม: ห้ามใช้คำพูดในลักษณะทับถม (บลัฟ), ด่าทอ, ดูหมิ่น, หรือท้าทายโดยเด็ดขาด ให้มุ่งเน้นการสื่อสารที่จำเป็นต่อกิจกรรมและรักษาบรรยากาศการเล่นที่สนุกสนาน
14.4 ข้อจำกัดสำหรับเจ้าหน้าที่รัฐ
เจ้าหน้าที่ หรือ หน่วยงานรัฐ ที่เข้าร่วมกิจกรรม War Zone จะต้องเข้าร่วมในฐานะ "พลเมือง" คนหนึ่งเท่านั้น และต้องปฏิบัติตามข้อจำกัดต่อไปนี้อย่างเคร่งครัด:
-
ข้อห้ามด้านอาวุธและยุทโธปกรณ์: ห้ามเจ้าหน้าที่ หรือ หน่วยงานรัฐ นำอาวุธ, อุปกรณ์, หรือยานพาหนะใดๆ ที่เบิกจากคลังของทางราชการมาใช้ในการเข้าร่วมกิจกรรม War Zone โดยเด็ดขาด จะต้องใช้อาวุธส่วนตัวที่หามาได้อย่างถูกต้องเท่านั้น
-
สถานะนอกการปฏิบัติหน้าที่: การเข้าร่วม War Zone ถือเป็นการอยู่นอกเวลาปฏิบัติหน้าที่โดยสมบูรณ์ ห้ามใช้อำนาจหรือสวมบทบาทในฐานะเจ้าหน้าที่เพื่อสร้างความได้เปรียบใดๆ ในกิจกรรม
บทสรุป: ข้อความทิ้งท้ายจากทีมงาน
ขอขอบคุณผู้เล่นทุกท่านที่สละเวลาศึกษาและทำความเข้าใจกฎ กติกา และแนวทางปฏิบัติของเซิร์ฟเวอร์ RED DAWN
ทั้งหมดนี้อย่างละเอียด เจตนารมณ์ของกฎทุกข้อคือการสร้างสรรค์สังคมการเล่น Roleplay ที่มีคุณภาพ
ให้เกียรติซึ่งกันและกัน และมอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมและยุติธรรมสำหรับทุกคน
โปรดทราบว่าโลกของ RED DAWN เป็นโลกที่ขับเคลื่อนโดยผู้เล่นและมีการพัฒนาอยู่เสมอ ดังนั้น
เพื่อรักษาความสมดุลและความสงบเรียบร้อยของเซิร์ฟเวอร์ กฎเหล่านี้อาจมีการเปลี่ยนแปลง แก้ไข
หรือเพิ่มเติมได้ในอนาคตตามความเหมาะสม
จึงเป็นความรับผิดชอบของผู้เล่นทุกท่านที่จะต้อง กรุณาหมั่นเข้ามาตรวจสอบเอกสารกฎฉบับนี้อย่างสม่ำเสมอ
เพื่อให้แน่ใจว่าท่านได้รับทราบข้อมูลที่เป็นปัจจุบันที่สุด
และสามารถเล่นอยู่ในกรอบกติกาของชุมชนเราได้อย่างราบรื่น
สุดท้ายนี้ ทีมงานหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกคนจะสนุกกับการเดินทาง สร้างสรรค์เรื่องราว
จารึกตำนานของตัวเองในดินแดนตะวันตกแห่งนี้ และที่สำคัญ “เล่นเกมให้สนุก”
ขอแสดงความนับถือ
ทีมงาน RED DAWN